ความคิดเห็นที่ 21    ดิฉันไม่ได้คัดค้านทุกโครงการอย่างที่คุณคิด และก็ไม่ได้สนับสนุนทุกโครงการอย่างไม่ลืมหูลืมตาเหมือนคนบางคน โครงการไหนดี ดิฉันก็ว่าดี 30 บาทฯ เป็นโครงการที่ดี ไม่ใช่ไม่ดี   ถ้าดิฉันตกงาน ดิฉันก็คงต้องใช้ แต่ 30 บาทฯ ก็มีปัญหามากมายซ่อนอยู่ ถ้าเคยได้คุยกับคนในวงการแพทย์ ก็จะได้ความเห็นอีกแบบหนึ่ง เฉพาะดิฉัน... ดิฉันเห็นว่า คนที่ถือบัตร 30 บาท ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นคนจน  แล้วทำไม เราต้องให้เงินอุดหนุนคนส่วนที่ไม่ลำบาก  ถ้าให้สิทธิ์เฉพาะจำเป็นจริงๆ มันจะไม่ดีกว่าหรือคะ เช่น ถ้าให้สิทธิ์เฉพาะคนที่ยากจนจริงๆ หรือคนที่เริ่มเป็นโรคเรื้อรัง ที่ต้องรักษายาวนาน หรือคนที่ต้องให้ยามูลค่าสูง ค่อยให้สิทธิ์(อาจโดยแพทย์เป็นผู้ตัดสินใจ)ไม่ดีกว่าหรือคะ 30 บาทฯ อาจไม่ต้องเสียซักบาท จะไปตั้งชื่อเท่ห์ๆ เก๋ๆ กว่านี้ก็ได้ เพราะคนจนจริงๆ 30 บาท ก็สำคัญมากๆ  เพราะเวลามาหาหมอแต่ละครั้ง ไม่ใช่แค่ 30 บาท แต่ต้องรวมค่ารถ ค่ากินนอกบ้านด้วย ให้สิทธิ์เฉพาะที่จำเป็น เพื่อให้มีเงินมากพอ ไปรองรับกับเรื่องที่จำเป็น คนที่จำเป็น หรือมีเงินไปพัฒนาด้านอื่นต่อค่ะ ก็เห็นด้วยกับคุณ โค อัสดงส่วนหนึ่งค่ะ ว่าบางอย่าง ก็ต้องลองทำก่อน แล้วค่อยๆ ปรับให้มันดีขึ้น ก็ยังหวังว่า โครงการ 30 บาท จะมีการปรับปรุงไปในทางที่เหมาะสมขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้เป็นโครงการที่มีอย่างยั่งยืน ไม่ใช่วันหนึ่งต้องล้มโครงการไป เพราะเงินหมด แต่ๆๆๆๆ โครงการไหนไม่ดี ก็ไม่เห็นจะต้องดันทุรังจริงๆ  เพราะมีผลกระทบตามมาในระยะยาว เปิดใจให้กว้าง ฟังข่าวให้รอบด้าน ก็จะทราบเอง ว่าดีหรือไม่ดี แล้วถ้าไม่ดี จะมีทางไหนดีกว่า  การที่เราอคติตั้งแต่แรก ว่านักวิชาการที่ออกมาพูด เป็นคนฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้ ทำให้เราเ็ก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ถูกต้องตามความเป็นจริงหรือเปล่าคะ เวลานักวิชาการออกมาพูด ดิฉันก็ยังได้ยินคำแนะนำนี่คะ ไม่ใช่คัดค้านอย่างเดียว แต่ไม่เสนอทางออก ทุกคน ย่อมหวังดีต่อประเทศเราด้วยกันทั้งนั้นล่ะค่ะ ถามหน่อยสิ ข้าวที่ส่งออกไป แต่ขายไม่ได้ สุดท้าย เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะทำไง โดยส่วนตัว ดิฉันจึงเห็นว่าการประกันราคาข้าวไม่ใช่ทางออก- ทางแก้ปัญหาเพื่อชาวนา แต่ทำเพื่อรักษาหน้าตา ที่เอาประเด็นนี้ไปหาเสียงไว้ต่างหาก หากอยากทำเพื่อเกษตรกร ก็ลดยี่ปั๊ว ทั้งขาเข้า(วัตถุดิบ เช่นปุ๋ย ถึงมือเกษตรกรโดยตรง เพื่อให้ราคาถูกลง) และขาออก ยังน่าจะดีซะกว่า รวมทั้งเพิ่มไซโลเก็บข้าวให้มากขึ้น ไม่ใช่ปล่อยให้มีแต่ของนายทุน เราไม่จำเป็นต้องขายแพงขึ้น เพื่อให้ได้กำไรมากขึ้นทางเดียว แต่การลดต้นทุน ก็เพิ่มกำไรได้เหมือนกัน ตั้งราคาขายแพงเว่อร์ แต่คุณภาพไม่มีอะไรโดดเด่น เป็นการดำเนินธุรกิจที่ไม่ยั่งยืนค่ะ ดิฉันยกตัวอย่างโออิชิ เพราะขึ้นราคา ตามหลังประกาศ ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทไม่นาน  และมีการปรับราคาอย่างหฤโหด ไม่ใช่ บาทสองบาทตามราคาน้ำมัน ไม่ใช่ขายราคาโปรโมชั่น แล้วจู่ๆ ปรับมาขายราคาปกติ @คุณ psybuster คุณไม่ต้องมาแนะนำดิฉันว่า วันไหน เมื่อไหร่ ดิฉันควรจะกินหรือไม่กิน ควรจะสนับสนุน หรือไม่สนับสนุนอะไรหรอกค่ะ ดิฉันไม่ได้กินข้าวนอกบ้านทุกวัน ดิฉันคิดเองได้ ไม่ได้หน้ามืดตามัว และมีสินค้าอีกหลายตัว ที่ทำแบบเดียวกัน  เดือดร้อนกันถ้วนทั่วทั้งคนที่ได้ขึ้นค่าแรง หรือยังไม่ได้ขึ้นก็ตาม สถานประกอบการหลายแห่ง ก็แก้ปัญหาด้วยการลดคน คนจะตกงานอีกเกือบล้านคน แท็บเล็ตมีประโยชน์จริง แต่ไม่ใช่สิ่งจำเป็น  ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องให้เด็กได้พกพาสิ่งเหล่านี้ เพราะที่เห็น นอกห้องเรียน เด็กไม่ได้ใช้เพื่อการศึกษา แต่ใช้เพื่อความบันเทิง  อยากให้คุณลองเปิดใจดูก่อน เดินทางไปไหนมาไหน สังเกตดูสิคะ ว่าเด็กไทยใช้เทคโนโลยีเพื่อความบันเทิง หรือเพื่อการศึกษามากกว่ากัน หากเป็นอย่างหลัง ย่อมสมควรที่จะสนัีบสนุนให้มีแบบพกพาไปใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ยิ่งการแจกแท็บเล็ตในสภา ยิ่งตลกสิ้นดี เมืองนอกทำ แล้วเราต้องทำตามหรือคะ ทำไม เราไม่ทำอะไรที่มันเหมาะกับเราล่ะคะ ถ้าิคิดว่า ดิฉันค้าน เพราะเข้าข้างอีกฝ่ายล่ะก็ คิดผิดค่ะ ดิฉันไม่ได้เข้าข้างใคร   ดีใจ ที่ทุกวันนี้ยังมีเสรีภาพให้แสดงออก เพื่อให้รัฐบาลรู้ว่า มีคนเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยกับนโยบายไหน อย่างไร  หนึ่งเสียง รวมๆ กันเป็นหลายๆ เสียง ถึงจะเป็นเสียงที่มีพลัง สิ่งที่ต้องการในท้ายที่สุด คืออยากให้ประเทศเราัพัฒนาแบบยั่งยืน ไม่ใช่ก้าวกระโดดแต่กลวงๆ ไม่ใช่ครอบครองเทคโนโลยี แต่ใช้เทคโนโลยีไม่เป็น อะไรที่ไม่จำเป็น ก็คือไม่จำเป็น เพราะประเทศเรากำลังเป็นหนี้ค่ะ พวกคุณได้แต่ต่อว่า ว่าอีกฝ่ายไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้  พวกคุณกล้าพูดไหม ว่าคนที่คุณสนับสนุนไม่ีดียังไง ทำอะไรผิด อะไรไม่ควร แล้วสมควรแก้ไขยังไง หรือทุกวันนี้ เขาก็ยังไม่เคยทำอะไรผิดในสายตาพวกคุณ พวกคุณเป็นแฟนคลับเขา แต่รักเขาจริงหรือเปล่า??? คุณเห็นแฟนคลับดาราบางคนไหมคะ ที่ดาราเขาทำอะไรก็ไม่ผิด ยังรัก ยังเป็นกำลังใจให้กันเสมอน่ะค่ะ พวกคุณเป็นประเภทนั้นกันหรือเปล่าคะ พวกคุณเป็นเสียงส่วนใหญ่นะคะ ถ้าคุณไม่พูด ถ้าคุณไม่ค้านบ้างในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แล้วใครจะทำได้ดีเท่าพวกคุณ  คนรักกันจริง ถ้าเห็นอะไรไม่ถูก ไม่ควร เขาต้องเตือนกันค่ะ ปล. ขอบคุณนะคะ ที่ส่งหลังไมค์ไปให้ ไม่งั้นก็คงไม่ได้มาอ่านหรอกค่ะ จากคุณ : เบบี้โรส   เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 13:13:44 A:202.90.6.36 X:

         อย่างไรก็ตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาสอนไว้ว่า จงอย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่ยังไม่ได้พิสูจน์ การที่คุณบอกว่าตนเองไม่ได้ฝักไฝ่ฝ่ายใด ผมก็อยากจะเชื่ออยู่นะครับ เพียงแต่มันมีบางสิ่งบางอย่างฉุดรั้งผมไว้ เนื่องจากผมได้รับฟังความเห็นของคุณที่มีต่อนโยบายของ พท อย่างเดียวจึงไม่มีน้ำหนักพอที่จะโน้มน้าวให้ผมคิดอย่างนั้นได้  ทำให้ผมต้องตั้งสมมติฐานว่าคุณเป็นสลิ่มไว้ก่อน แต่ถ้าผมค้นพบแล้วว่ามันไม่ใช่ ก็ต้องขออภัย