คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่12 มติชน 29 ธันวาคม 2555
การที่พรรคประชาธิปัตย์เลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ลงสมัครชิง
ตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อีกครั้ง แสดงว่ามั่นใจในฐาน
เสียงของพรรคอย่างมาก
เพราะต้องยอมรับว่าผลงานของ "สุขุมพันธุ์" ในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้โดดเด่น
แถมยังมี "จุดอ่อน" หลายเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในปี 2554 ที่ขัดแย้งกับรัฐบาล
การแก้ไขน้ำท่วมขังใน กทม.ปี 2555
การก่อสร้างสนามฟุตซอลไม่ทันตามกำหนด
และการต่อสัญญาบีทีเอสล่วงหน้า 17 ปี
แต่ถ้าเทียบ "สุขุมพันธุ์" กับผู้แสดงความจำนง 3 ราย คือ นายกอร์ปศักดิ์
สภาวสุ นายประกอบ จิรกิติ และนายอภิชัย เตชะอุบล
"สุขุมพันธุ์" เหนือกว่า
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในการโหวตครั้งสุดท้ายมีชื่อ
"กรณ์ จาติกวณิช" มาเทียบเคียงด้วย
ซึ่งตามชื่อ-ชั้นแล้ว "กรณ์" สดกว่า
เป็นที่รู้จักของคน กทม. และยังไม่มีแผล
แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับเลือก "สุขุมพันธุ์"
ก่อนหน้านี้เคยมีคนวิเคราะห์ว่า "จุดแข็ง" ที่สุดของ "สุขุมพันธุ์"
อยู่ที่การเป็นอดีตผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์
เพราะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบต่อผลงานในช่วง
เกือบ 4 ปีของ "สุขุมพันธุ์" ด้วย
ถ้าไม่ส่ง "สุขุมพันธุ์" ลงสมัครอีกครั้ง ก็แสดงว่าพรรค
ไม่พอใจผลงานของ "สุขุมพันธุ์"
ตรรกะนี้จะเป็น "บูมเมอแรง" ที่ "ประชาธิปัตย์" ปฏิเสธความ
รับผิดชอบทางการเมืองได้ยาก
"ประชาธิปัตย์" คงประเมินแล้วว่าเลือกตีฝ่าข้อครหา
เรื่องน้ำท่วม สนามฟุตซอล บีทีเอส
ง่ายกว่าเรื่องความรับผิดชอบที่เลือก "คน" ผิดให้มาบริหาร กทม.
การเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็น "ตัวแทน" สามารถอุดจุดอ่อน
เรื่องนี้ได้ เพราะแสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์พอใจผลงานและ
ไว้วางใจ "สุขุมพันธุ์" ต่อไป
ความโดดเด่นที่น่ายกย่องของพรรคประชาธิปัตย์
ประการหนึ่งก็คือ เป็นพรรคการเมืองที่มีวินัย
ทะเลาะกันในพรรค แต่ไม่เคยแพร่งพรายออกมานอกพรรค
และทุกคนปฏิบัติตามมติของพรรคอย่างเคร่งครัด
นับจากนี้ไป พรรคประชาธิปัตย์คงต้องโหมสรรพกำลังลงมาช่วยอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะเรื่องการตอบโต้ทางการเมืองซึ่งเป็น "จุดอ่อน" ของ "สุขุมพันธุ์"
เพราะอาณาจักรเสาชิงช้าคือฐานที่มั่นสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์
ต้องยึดเอาไว้ให้ได้
พรรคประชาธิปัตย์นั้นครองเก้าอี้ "ผู้ว่าฯกทม." มายาวนาน
ชนะคู่แข่งสบายๆ
แต่ครั้งนี้เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเจอศึกหนักที่สุด
เพราะนอกจากผลงานของ "สุขุมพันธุ์" ไม่โดดเด่น
เหมือนสมัย "อภิรักษ์ โกษะโยธิน"
ทัศนคติของคน กทม.ยังเปลี่ยนไป
ในอดีตคนกรุงมักเลือกผู้สมัครอิสระ หรือพรรคฝ่ายค้าน
เพื่อคานอำนาจกับรัฐบาล
แต่วันนี้แนวคิดนี้์เริ่มเปลี่ยนไปหลังเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ปี 2554
เมื่อรัฐบาลกับผู้ว่าฯกทม.ขัดแย้งกัน
หรือกรณีรถไฟฟ้า ที่รัฐบาลต้องการรวมเป็นหนึ่ง แต่ กทม.
ต้องการแยกบริหารและต่อสัญญากับบีทีเอส 17 ปี
ปัจจัยที่เปลี่ยนไปนี้เองที่ทำให้ศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ของ "สุขุมพันธุ์" ครั้งนี้
พรรคประชาธิปัตย์ต้องเหนื่อยสุดสุดอย่างแน่นอน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1356752011&grpid=01&catid=&subcatid=
ไม่อยากวิจารณ์ ...เดี๋ยวจะกลายเป็นอวย "สื่อสีแดง"
อ่าน เรื่องเดียวกัน "สุขุมพันธ์" เหมือนกัน เห็นฝีมือการเขียน
แล้ว ก็ต้องถึง "บางอ้อ" ทำไม "แนวหน้า" ถึงเป็น"สื่อ"
แจก มากกว่า ขาย ...ต้องฝากไปให้ คุณ "ร้อนหนาว/ข้างบูรพา"
คนชอบ "แนวหน้า"ดูด้วย นี่คือ สื่อที่คุณบอกว่า เขาไม่อ่านกันแล้ว ...