เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์
เพื่อพิจารณาเรื่องการส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่า กทม. ที่ประชุมมีมติ
เสียงส่วนใหญ่ ส่งม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ลงสมัคร เนื่องจากผลงานที่
เป็นรูปธรรมตลอด 4 ปี และแนวนโยบายอีก 4 ปีข้างหน้า ที่เชื่อว่าจะ
สามารถชนะใจคนกรุงเทพได้ โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค
จะหารือร่วมกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ รวมทั้งนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน
รองหัวหน้าพรรค ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งผู้ว่า
กทม. นายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรคที่ดูแล กรุงเทพมหานคร
เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และแนวนโยบายพรรคต่อไป
ส่วนเรื่องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ตั้งข้อหาผู้บริหารกรุงเทพมหานคร
กรณีการต่อสัญญาสัมปทานเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสออกไปอีก 30 ปี เชื่อว่า จะมี
การนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมืองอย่างแน่นอน แต่มั่นใจว่า
คุณชายสุขุมพันธ์ จะสามารถชี้แจงได้
ข่าวนี้ ทำให้มีคนที่ทั้งผิดหวัง สมหวัง แต่ไม่กระทบคนที่ไม่ได้หวังอะไรใน
ตัวบุคคล พูดง่ายๆว่า พรรคประชาธิปัตย์ส่งใครมา ก็เลือกอยู่แล้ว
โดยเฉพาะในสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้
ผมเองแอบหวังว่า พรรคประชาธิปัตย์จะนึกสนุกสร้างปรากฏการณ์
กวาดคะแนนทั่วกรุงถล่มทลาย ด้วยการส่งใครสักคน ที่ดูเป็น
นักบริหาร+นักสื่อสาร ลงมาแทนคุณชายสุขุมพันธุ์ ซึ่งเป็นขั้นต่ำสุด
ที่พรรคจะเพลย์เซฟ หรือให้ แก่คนกรุงเทพได้ คือ ยังไงๆ
อย่างเลว พรรคให้ตัวเลือก ระดับคุณชายสุขุมพันธุ์ได้แน่ๆ ไม่ต่ำกว่านี้
แต่มันอดนึกสนุกไม่ได้ว่า สังเวียนนี้ ลองส่งตัวเลือกประเภท
น็อคคู่ต่อสู้ให้ตายคาเวที ดีกว่า ชนะคะแนน ไหม?
คุณชายสุขุมพันธุ์บนฐานคะแนนจัดตั้งของพรรคประชาธิปัตย์
ในยามที่คนเกลียดกลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะมาแทนนี้ ท่านไม่แพ้
ใครดอก ชนะคะแนนแน่นอน
แต่ ใจ ที่จะ ให้รางวัล แก่คนกรุงเทพฯ ที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์
ชนิด คืนกำไร หรือ ให้เกินคาด เพื่อ เสริมแรงคนหนุน แล้ว
ข่มขวัญคนต้าน มันก็เป็นโอกาสที่จะ ทิ้งไพ่ แบบนี้ลงไปเหมือนกัน
มิใช่หรือ?
ทั้งนี้ เพราะผมคิดว่า ในสถานการณ์บ้านเมืองที่คนกรุงเทพฯ ต่อสู้
และต่อต้านตระกูลต่ำช้าและคี่ค่าบริวารจนเหนื่อยอ่อน น่าจะมีอะไร
ที่ช่วย ปลุกขวัญกำลังใจให้ฮึกเหิม ให้โห่ร้อง ให้ยินดีปรีดา แล้วทุ่ม
เทต่อสู้กันต่ออย่างเหนียวแน่น พร้อมๆกับเทใจให้พรรคประชาธิปัตย์
เพราะเห็น ความเสียสละ อย่างหนัก จากการส่งคนที่เกินคาด
มาดูแลกรุงเทพมหานคร อันเป็นที่มั่นสุดท้ายกลางแผ่นดินสีแดง
นอกเหนือจากภาคใต้ซึ่งเป็นฐานความนิยมเหนียวแน่นของประชาธิปัตย์
แต่เอาเถอะ ในที่สุด พรรคนี้ก็รักษาธรรมชาติ ของตนเองได้อย่าง
เหนียวแน่นและมั่นคงจริงๆ คือ ให้ได้เท่านี้แหละ ก็ต้องมาวิเคราะห์ถึง
โอกาสและ วิกฤต กันดูสักหน่อย
1.) ก่อนอื่นให้เข้าใจเสียก่อนว่า คุณชายสุขุมพันธุ์ไม่เคยทิ้งพรรค
ประชาธิปัตย์เลย ไม่ว่าในยามรุ่งหรือยามร่วง สนับสนุนและอยู่ด้วยมา
ตลอด ไม่เคยสร้างคดีความใดๆให้แก่ประชาธิปัตย์เลย ไม่เคยสร้าง
ความเสื่อมเสียหรือเป็นแผล ของพรรค ฉะนั้น ในมุมนี้ ท่านเป็
นคนดีที่น่านับถือยิ่ง ของพรรคแน่ แต่ 4 ปีที่เป็นผู้ว่า กทม. ท่านก็
ติสต์ ใส่พรรคไม่น้อยทีเดียว
2.)นอกจากเป็นผู้ใหญ่ในพรรค ท่านเป็นนายทุนและฐานเสียง
ที่สำคัญด้วย ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ลูกค้า และลูกหนี้ ของคุณชาย
มีมากเท่าๆ กับที่ดินในกรุงเทพมหานครของราชสกุลบริพัตร นี่แหละ
ตรงนั้นจะหายไปแน่ ถ้าชื่อผู้สมัครผู้ว่า กทม. รอบนี้ เป็นชื่ออื่น
3.)คุณชายสุขุมพันธุ์ลงทุนเสียมารยาทในการชิงแถลงข่าวว่าจะลง
สมัครผู้ว่า กทม. ต่อ ทั้งๆที่กระบวนการของพรรคยังอยู่ในขั้นตอน
พิจารณาผู้เสนอตัว 4 ท่าน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคุณชายด้วย การไม่เคารพ
ไม่รอกระบวนการของพรรค ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่ เป็นการส่งและส่อ
สัญญาณบางประการ
ส่อสัญญาณ : ว่าคุณชายก็หวั่นไหวกับคะแนนนิยมของตัวเอง รู้ตัวเองว่า
มีผลงานชัดเจนโดดเด่น หรือเงียบเชียบเฉื่อยแฉะสักแค่ไหน และรู้ว่า
พรรคกำลังลังเลใจ และคิดถึง ใจ ของคนกรุงเทพฯที่ทุ่มเทให้พรรคมาก
รวมทั้ง หวัง จากพรรคมากๆด้วย
ส่งสัญญาณ : แต่คุณชายมีความปรารถนาจะลงสมัครอย่างแน่ชัด
จึงส่งสัญญาณให้พรรครู้แบบหักกติกามารยาททั้งหมด ยอมเป็น
ผู้ใหญ่ไร้มารยาท ประกาศต่อผู้คนทั้งประเทศผ่านสื่อ เพื่อสู้ต่อ
อันเป็นการมัดมือชก มัดมือพรรค โดยรู้ว่าธรรมชาติของพรรคและ
ธรรมชาติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะคือ ประนีประนอม ไม่มีทาง
หัก ซึ่งก็น่าติดตามว่า คุณชายจะ ชดใช้ ให้พรรคในครั้งนี้แค่ไหน
อย่างไร
4.) วิกฤตที่ประชาธิปัตย์จะเผชิญก็คือ กลุ่มคนที่เป็นอิสระทางความคิด
มีจำนวนหนึ่งแน่ๆ ที่ยังไม่ประทับใจผลงานและบุคลิกภาพแบบ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กับกลุ่มที่ไม่มีฝักมีฝ่าย ไม่เสพติดยี่ห้อไหนทั้งนั้น พวกเขา
ไม่ใช่แม่ยก ไม่ใช่สาวก ไม่ใช่ทาสของสถานการณ์ประเภทไม่เลือกเรา
เขามาแน่ พวกเขายังไม่ใช่ผู้พลีตนเป็นฐานเสียง แต่รักษาสิทธิและศักดิ์ศรี
ความเป็นประชาชนไว้อย่างเต็มที่ ที่พร้อมจะคิดและเลือกอย่าง อิสรชน
ซึ่งคนกลุ่มนี้พร้อมที่จะ ไม่เลือก แต่ไม่ ประชดชีวิต ไปเลือกฝ่ายตรงข้าม
เพื่อความสาแก่ใจแน่นอน
นั่นหมายความว่า ตัวเลือกอย่างจูดี้อีเว้นต์พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่พักหลัง
มีกิจกรรมร่วมกับนายกรัฐมนตรีหลายที่หลายแห่ง หลายป้ายโฆษณา
ราวกับเป็น ....ปู มิได้คะแนนจากคนกลุ่มนี้แน่นอน รวมไปถึง เสรีพิศุทธิ์
+ประพันธ์ คูนมีที่ฝ่ายหลังนี่ เล่น พรรคประชาธิปัตย์ไว้หนักและดูจะ
ส่วนตัว ไปหน่อยด้วย ช่องไม่ลงคะแนนอาจเป็นที่หมายของคนกลุ่มนี้
หรือนึกสนุก กาสนับสนุนสุหฤทธ สยามวาลา เพราะรักชอบใน แนวคิด
ของเขา (ผมอยู่กลุ่มนี้ ผมสนับสนุนแนวคิดของสุหฤท แต่ไม่ต้องห่วง
ผมไม่ใช่คนกรุงเทพฯ ฮา...)