ความคิดเห็นที่ 1 อย่าลืมดูจุกยางที่พื้นรถด้วยนะครับ  ถ้าไม่อยากรื้อพรมออกมาตาก จากคุณ : i am friend เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 14:05:42

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าวิ่งลุยน้ำ ระดับน้ำมันจะต้องสูงกว่าจุกนั้นนะครับ ถึงจะดันเข้ามาได้ ถ้าถึงกับนอง ถ้าลุยน้ำทั่วไปไม่น่าจะเข้ามา คันเก่าผมเคยครับ แต่ซ่อมมาเพราะโดนชนท้าย สรุปมันเข้าตามตะเข็บแถวไฟท้าย กับรูน๊อตไฟท้ายแล้วไหลลงไปอยู่ที่หลุมยางอะไหล่ แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 14:09:05 จากคุณ : ohlalla เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 14:08:44

ความคิดเห็นที่ 4 โชคดีรถผมไม่เป็นหลังจากทดลองตากฝนมาหลายครั้ง ผมว่าเป็นตามที่ k.ความคิดเห็นที่ 3 ครับในคลับพูดถึงเหมือนกัน จากคุณ : เวียงสา เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 14:21:04

ความคิดเห็นที่ 5 คันก่อนก็เป็นครับน้ำขังตรงยางอะไหล่ เนื่องจากเอาน้ำแข็งใส่กล่องโฟมไว้ท้ายรถ ทำให้น้ำรั่วลงไปขังในยางอะไหล่ ไม่รู้นานเท่าไหร่ เชคลมยางอะไหล่ถึงได้เจอ สนิมเพียบเลย รีบขัดแล้วพ่นกันสนิมไว้เลยตั้งแต่นั้นมาก็ซื้อถาดยางรองพื้นกระโปรงหลังไว้เลย จากคุณ : Maechai เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 16:41:29

ความคิดเห็นที่ 6 จุกตรงนั้นโอกาสน้ำเข้าน้อยมากครับ รถคันแรกของผมโคโรน่า ใช้มา 7-8 ปี ก็ยังไม่เสียเลยครับ แต่น้ำเข้ากระโปรงหลัง ส่วนใหญ่มาจากตะเข็บรอยเชื่อมครับ ถ้ารถที่เคยโดนชนท้าย แล้วซ่อมไม่ดีจะมีโอกาสน้ำเข้าได้ ลองดูให้ทั่วกระโปรงท้ายครับ ตามซอกซุ้มล้อ ที่มีรอยตะเข็บเชื่อมน่ะครับ ตอนแรกผมก็นึกว่าเข้าจากจุกยางตรงนั้น แต่ลองอุดดูแล้วน้ำก็ยังเข้า จากคุณ : nong2000 เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 18:33:49

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณค่ะ มาเก็บข้อมูลจะได้เอาไว้สังเกตค่ะ จากคุณ : dingapom เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 21:46:48

ความคิดเห็นที่ 8 อ้อ ผมลืมบอกวิธีหารอยรั่ว หลังจากเช็ดภายในรถให้แห้ง ให้เอาทิชชู่แปะตามจุดต้องสงสัยด้วยสก๊อตเทป ต้องเปิดพรมหรือแผ่นปิดตัวถังเพื่อหารอยตะเข็บต้องสงสัยต่างๆนะครับ รอจนฝนตกครั้งต่อไป แล้วเปิดดู ตรงที่น้ำรั่ว ทิชชูจะมีครบน้ำ ถึงแห้งแล้วมันก็จะเหลืองๆแข็งไม่นิ่มเหมือนเดิม คันเก่าผมฝนตกหนักทีในหลุมยางอะไหล่เป็นกะละมังซักผ้าได้เลย จากคุณ : ohlalla เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 22:10:32

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าลุยขนาดนั้น น้ำก็น่าจะเข้าได้ทุกคันแหล่ะครับ จากคุณ : ~@แมงม่วนแมน@~ เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:09:42