ความคิดเห็นที่ 1 ออกแบบตามลักณะการใช้งาน ทางเรียบชื่อก็บอกอยู่ เน้นความเร็ว แอโร่ไดนามิค วิบากไม่ได้เน้นแอโร่ แต่เน้นที่หากเกิดการกระแทก จากคุณ : ยาน้ำแก้ไอตราตะแป๊ะแกล้งตาย เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 10:38:36

ความคิดเห็นที่ 2 สงสัยเหมือนผมเลย หมวกวิบากตรงปากทำไมต้องยื่นๆ มันคืออะไร มีไว้ทำไม ? จากคุณ : James_nnk เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 10:41:03

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนใหญ่วิ่งตามโคลน ล้มหน้าทิ่ม คางจะได้จมลงไปก่อน (ผมมั่ว) จากคุณ : ลูกหมาตกน้ำป๋อมแป๋ม เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 10:50:26

ความคิดเห็นที่ 4 น่าจะเพราะมัน เท่ ต่างกันเพราะอารมณ์ขี่ต่างกัน ดูหมวกแพงๆหรูๆชูเบริกสิ 5555ผมก็มั่ว สงสัยมานาน ไอ้แผ่นยื่นๆมันไว้กันโคลนกันใบไม้กิ่งไม้เวลาลุยป่ารึเปล่า จากคุณ : Exige เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 10:59:54

ความคิดเห็นที่ 5 เค้าก็คงออกแบบมาแล้วว่า รถแบบไหนขี่ในลักษณะภูมิประเทศแบบไหน หมวกแบบไหนเหมาะที่สุด แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นใส่เพื่อให้เข้ากับสไตล์รถมากกว่า จากคุณ : อิอิ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 11:04:05 A:58.8.161.162 X: TicketID:341445

ความคิดเห็นที่ 6 หมวกวิบากที่คางยื่นน่าจะช่วยเรื่องการหายใจ เพิ่มช่องว่างในหมวกครับ จากคุณ : Yalong เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 11:31:15

ความคิดเห็นที่ 7 เคยได้ยินมาว่าหมวกวิบากที่ต้องมีคางยื่นๆเพราะเวลาล้มจะป้องกันการกระแทกได้ดีกว่าครับ ส่วนแก๊ปหมวกด้านบนก็เอาไว้กันกิ่งไม้อะไรพวกนั้นครับ ปล.มั่วล้วนๆ ขอบคุณครับ จากคุณ : รถผมวิ่งได้ร้อยเดียว (koda@บางมด) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 11:43:31

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ^ ตอบได้ใกล้เคียงครับ เนื่องจากรถวิบากใช้ลุยมากกว่ารถปกติ จึงมีแก๊ปหมวกยื่นออกไปเวลาเจอกิ่งไม้ ส่วนคางที่ยื่นออกมาช่วยในการหายใจครับเพราะขับรถแนงนี้ใช้ร่างกายค่อนข้างเยอะและเหนื่อยเร็วครับ  ส่วนหมวกต่างๆก็ต้องดูว่าเราขี่รถแบบไหนต้องการๆเซฟตี้ๆสูงไหม บางรุ่นบางแบบก็ออกมาผสมๆกันก็มีครับ จากคุณ : Greenbay เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 12:42:08

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ แล้วทำไมวงการรถวิบากจึงใช้ แว่นตาก็อกเกิ้ลแทนแผ่นชิลด์ครับ ถ้าเพื่ออากาศหายใจ ก็ทำแว่นแบบนี้ก็ได้ (ข้างในน่ะครับ ถอดแผ่นชิลด์ออก จะเจอแว่นกันแดดอีกชั้นนึง) จากคุณ : ริมน้ำปิง เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 13:01:13

ความคิดเห็นที่ 10 ความคิดเห็นที่ 9 goggle เจอโคลนเกาะมันถอดออกได้เลยไงครับ   ถ้าเป็นชิลด์ เจอโคลนยิ่งเช็ดยิ่งเลอะ ยิ่งมองไม่เห็น จากคุณ : The_Death_oF_Superman เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 13:11:06

ความคิดเห็นที่ 11 อ๋อ ผมคิดว่าชิลด์มันทำความสะอาดง่ายซะอีก เลอะก็ปัดออก ขอบคุณครับ จากคุณ : ริมน้ำปิง เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 13:14:50

ความคิดเห็นที่ 12 แก๊ปหมวกไว้บังแดด และรถพวกนี้จัมพ์เนิน ยกล้อหน้า หงายบ่อยๆ เดี๋ยวไปเจอพระอาทิตย์เข้าเต็มๆ หน้าจะมืดเอาได้ครับ ฮาๆๆๆๆๆ จากคุณ : BizT เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 19:08:32 A:124.121.112.150 X: TicketID:138800

ความคิดเห็นที่ 13 เอาเฉพาะหมวกวิบากน่ะครับ ทุกอย่างมาจากสนามแข่งขัน แก๊บตรงหัวใช้บังโคลน+เศษหิน+ทราย 9ล9 ที่กระเด็นจากคันหน้า มาใส่หัวเราเต็มๆ  ถ้าไม่มีแก๊บตรงนี้เข้าตาเต็มๆ แต่ถ้าจาก ภาพตัวนี้ ต้องต่อยื่นแก๊บให้ยาวอีก 2 นิ้วกันเศษโคลนสุดๆ ดูภาพจากแถวหลังน่ะครับ ผู้ออกตัวช้า จะเปื้อนทั้งตัว จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 19:37:24

ความคิดเห็นที่ 14 จากภาพนี้ ผู้ใช้ ใช้ชิลแบบปิดเต็มหน้า พอเจอโคลนจากคันหน้าเข้าไป คงมองไม่เห็นแล้วต้องหยุดเป็นที่สุด  แต่จากภาพไม่ใช่การแข่งขันอาชีพน่ะครับ น่าจะเป็น มิตติ้งของคนรักมอไซค์วิบาก ขี่กันเอาสนุกน่ะครับ และถ้าเป็นลักษณะนี้ ถ้าโหดๆหน่อยผู้ขี่จะหายใจไม่ทัน เพราะลักษณะหมวก ปิดหารหายใจจากภายนอกน่ะครับ จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 19:46:26

ความคิดเห็นที่ 15 จากการแข่งขันสนามนี้ นักแข่งหมายเลข 12 ใช้ตัวต่อแก๊บหมวก (อันสีขาวๆ) ยื่นออกจากหมวกเดิมอีก เพราะต้องการกันโคลนไม่ให้เข้าตามากที่สุด **เพราะงั้นหลักแอร์โร่ไดนามิคไม่สำคัญเท่าขี่ให้จบขี่ให้ทนสภาพสนามที่สุด** จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 19:50:58

ความคิดเห็นที่ 16 อย่างที่บอกทุกอย่างพัฒนามาจากสนามแข่ง ถ้าตามหลัง พี่เบอร์ 17 ต้องก้มหน้ามุดสุดๆ แล้วถ้าเป็นหมวกอย่างอื่นจะเหลือเหรอ.. จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 19:56:01

ความคิดเห็นที่ 17 สังเกตุจากหัวผู้ชนะน่ะครับ จะเห็นโคลนไปติดที่แก๊ป พอสมควร จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 19:59:49

ความคิดเห็นที่ 18 สุดท้ายว่าด้วยเรื่องของแก๊ป ภาพนี้เป็นการแข่งขันในไทย สมัย 30กว่าปีก่อน ถึงจะย้อนยุคหน่อย แต่สื่อความหมายได้ดีมากๆ  ยามเมื่อต้องสละแว่น  ตัวแก๊ปสำคัญสุดๆ ในภาพ นักแข่งจัดท่าทางการขับขี่ได้ลงตัว ได้บังโคลนต่างๆจากคันหน้าด้วย เพราะงั้น แก๊ปไม่ใช่ประโยชน์จากการบังแดด โดยตรง แต่เป็นประโยชน์ แค่เสี้ยวๆ เฉยๆๆน่ะครับ จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 20:20:17

ความคิดเห็นที่ 19 ต่อไปว่าด้วยเรื่องของ แว่นตาวิบาก  ก้อเอามาจากสนามแข่งขันอีก   ปัจจุบันเทคโนโลยีจากแว่นวิบาก  พัฒนาไปจากแต่ก่อนมาก แต่ถึงยังไง ถ้ามองไม่เห็นก้อต้องถอดทิ้ง ใช้ตาเปล่าอยู่ดี ในสนามแข่ง นักแข่งอาชีพ แว่นตาของนักแข่ง จะมี ฟิล์มพิเศษ อีก หลายแผ่น คล้ายสติ๊กเกอร์  ถ้าเวลาเปื้อนเศษต่างๆ จะแกะทิ้ง ไปทีละชั้นๆ จนถึงตัวแว่นปล่าวๆ  ถ้าแว่นเปื้อน อีก ก้อจะต้องถอดแว่นทิ้ง ใช้ตาปล่าว แผ่นใสบางๆ เรียกชื่อว่า "เทียร์ออฟ" แต่กว่าจะถึง ชั้นตาปล่าว ถ้าสนามโคลนไม่มาก ก้อไม่ต้องถึงขั้นถอดแว่นทิ้ง ในภาพ  ดูที่ข้างๆแว่นตานักแข่งน่ะครับ จะมีแผ่น ยื่นออกมา เรียกว่า แผ่น เทียร์ออฟ นั้นแหละ จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 20:32:12

ความคิดเห็นที่ 20 ^ ^ ^ ข้อมูลแน่นมาก ขอบคุณครับ จากคุณ : Scoundrel เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 20:33:45

ความคิดเห็นที่ 21 ในภาพ พอทัศนะวิสัยไม่ดีแล้ว นักแข่งกำลังจะดึงแผ่น เทียร์ออฟ ทิ้งพอดี ดูกันชัดๆ จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 20:34:40

ความคิดเห็นที่ 22 สุดท้ายในเรื่องของ แว่นตาวิบาก   ตัวแว่น จะต้องถอดซักล้างได้ เพราะว่าใช้ งานยังไงมันต้องเปื้อน  ตัวแว่นจะต้องถอดได้ทุกชิ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสุด ของแว่นก้อคือ ตัวเลนส์ แว่นนั้นเอง พูดกันบ้านๆ ตัวเลนส์ คือพลาสติกชนิดหนึ่งที่ไม่ธรรมดา มันมีความยืดหยุ่นสุดๆ ไม่แตก ไม่บิ่น ไม่หัก  เพราะจากรูปที่โพสๆกันไป ถ้า เศษกรวด พุ่งชนเลนส์ จนแตก ตาก้อบอดได้ เพราะงั้น แว่นตาวิบาก ความพิเศษ มันอยู่ที่เลนส์ เห็นร้านค้า ขายกัน 100-200 พวกนั้นพลาสติกธรรมดาน่ะครับ อย่าเห็นว่า สวยถูก *** ด้วยความที่เลนส์แว่น มีความเหนียวไม่แตก แต่ก้อแลกมาด้วย ความที่สามารถเป็นรอยได้ง่าย ถึงง่ายที่สุด บางครั้งล้างครั้งเดียวก้อยังเป็นรอย เพราะงั้น คนที่มีแว่น ควรจะมีเลนส์อะไหล่สำรองไว้ ** จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 20:48:28

ความคิดเห็นที่ 23 สุดท้าย เรื่องของทรงหมวกน่ะครับ จะเห็นรูปต่างๆที่สรรหามาโพส ก้อคงเข้าใจว่าลักษณะการแข่งขันของวิบาก จึงทำให้หมวกต้องเป็นหมวกลักษณะเปิด   แล้วตรงปาก ที่ยื่นแหลมๆ ก้อสำคัญในการป้องกันการกระแทก ให้มันยื่นไกลจากปากมาก ก้อจะดี แล้ว รวมถึงการหายใจรับเอาอากาศ ให้มากที่สุด  เพราะการแข่งขันวิบาก ผู้แข่งจะเป็นคนหนุ่มแน่น แล้วใช้พละกำลัง ชนิดที่ว่า ถ้ามี 100 ให้ใช้ 200 เพื่อผลการแข่งขั้น ยิ่งเหนื่อยยิ่งต้องหายใจให้มากๆ จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 21:01:48

ความคิดเห็นที่ 24 สุดท้าย น่ะครับ เราเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่นักแข่งอาชีพ  จึงไม่จำเป็นต้องไปเลียนแบบ หมวก ให้เหมือนเพราะว่าเราอาจไม่จำเป็น มาก หมวกวิบากปัจจุบันมีให้เลือกหลายทรงมากๆ   เช่นแก๊ปหน้าสั้น เมาส์ตรงปากสั้น ไม่ต้องใช้แว่น ใช้ ชิลแบบ คห. 8-9  ก้อเหมาะกับ ท้องถนนน่ะครับ สำหรับผม เคยซื้อชิล ของ อินเด็ก มาใส่กับหมวกอินเด็ก  ชื่อไหม ผมเวียน หัว เพราะชิลมันบีบทำให้ตาผมเหล่ๆ สุดท้ายต้องถอดทิ้งใส่แว่นอย่างเดิม นี่แหละ ของถูกมักไม่ดี       **หวังว่า ทุกท่านคงพอเข้าใจ ในสิ่งที่สื่อไปไม่มากก้อน้อยน่ะครับ ขอบคุณเจ้าของรูปต่างๆที่ผมนำมาฌะสด้วย เครดิต ตามชื่อในภาพแหละครับ ** จากคุณ : โนบิตะ.com เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 21:12:53

ความคิดเห็นที่ 25 ได้ความรู้มากเลยครับ จากคุณ : ไก่จิกตีน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 22:42:18 A:223.206.8.148 X: TicketID:252022

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณ น้าโนบิตะ.com มากครับ  สำหรับข้อมูลดีๆ แน่นๆแบบนี้ ขอบคุณครับ จากคุณ : รถผมวิ่งได้ร้อยเดียว (koda@บางมด) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 22:53:40

ความคิดเห็นที่ 27 โห.. ความรู้ใหม่ทั้งนั้นเลย ขอบคุณมากเลยครับ ^^ จากคุณ : ริมน้ำปิง เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 12:19:17

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณครับ ความรู้ท้างน้าน จากคุณ : กุ้งเต้นชามะนาว เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 15:00:41