 |
มีคนจะมายึดรถ ซึ่่งไม่ยังไม่เห็นและได้ขอดูใบบอกเลิกสัญญา ปกติใบบอกเลิกสัญญาทางธนาคารต้องส่งมาหาเรา หรือทางตัวแทนถือมา (แล้วถ้าส่งมาทางไปรษณีย์ถ้าเราไม่เซ็นต์รับ ถือว่ายังไม่รับใช่หรือไมา)
==>> ถ้าส่งมาทางไปรษณีย์และเอกสารดังกล่าวส่งลงตู้จดหมายหรือมาถึงที่อยู่ในทำนองเดียวกัน ถือว่าได้รับแล้วครับ เป็นไปตามหลักกฎหมาย ปพพ ม.169 การแสดงเจตนาต่อบุคคลผู้ซึ่งมิได้อยู่เฉพาะหน้า
ตัวแทนพูดให้จ่ายยอดที่ค้าง บวกค่าดำเนินการซึ่งตัวแทนจะพูดว่าต้องจ่ายเยอะ ไม่คุ้มให้ยึดแล้วเอาเงินนั้นที่จะต้องจ่ายมาดาวน์ใหม่ดีกว่า ยังทันยังไม่ติดแบ็คลิส จากอ่านมาหลายกระทู้ มันไม่เป็นความจริงอยา่งที่พูดใช่หรือไม่ - คำว่าค้างค่างวด 3 เดือนติดต่อกัน นั้นต้องนับจากวันที่เราชำระวันสุดท้ายใช่หรือไม่ - ผมต้องไม่ให้ตัวแทนยึดรถใช่หรือไม่ แล้วถ้าไม่ยึดผมต้องดำเนินการอย่างไรต่อ - หลังจากเราถูกบอกเลิกสัญญา ยังมีเวลาอีก 30 วันเพื่อที่ ดำเนินการชำระ เราชำระบางส่วนได้หรือไม่
==>> ตอบแบบรวม ๆ เลยแล้วกันครับในกรณีคุณไม่มีความสามารถในการชำระเงิน ถึงแม้คุณจะนำรถไปคืนก็ไม่ได้หมายความว่า ยอดหนี้ที่เหลือจะหายไปเลย เมื่อทางไฟแน้นท์นำรถคันดังกล่าวไปขายและเกิดส่วนต่างจากนี้ค้างชำระเช่น คุณมียอดหนี้คงเหลือ 100,000 แต่ไฟแนนท์นำรถไปขายได้ 50,000 คุณก็ยังต้องมีหน้าที่ที่ต้องชำระส่วนต่างดังกล่าวอีก 50,000 + ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ทางไฟแนนท์จะสรรหามาเก็บกับคุณ และราคาที่ไฟแนนท์นำไปขายก็ไม่มีทางที่จะขายได้แพงกว่ายอดหนี้ที่คุณค้างชำระอยู่เพราะ คนที่มาซื้อส่วนใหญ่ก็พวกเดียวกันกับไฟแนนท์ ไฟแนนท์จึงฟันเงินได้ทั้งสองทาง ผมไม่ได้แนะนำให้คุณเบี้ยวหนี้ แต่เข้าใจว่าพอถึงจุดหนึ่ง มันไม่สามารถชำระได้จริง ซึ่งลูกหนี้หลายราย ใช้วิธีการนำรถไปซ่อนไม่ให้ไฟแนนท์หาเจอ พอไฟแนนท์หารถไม่เจอก็จะมีการติดต่อกับคุณเองเพื่อตกลงกันว่าจะทำอย่างไรเช่นคืนรถและจ่ายเงินเพิ่มเท่าไหร่ ซึ่งวิธีนี้ทำให้หนี้สามารถจบได้โดยยอดก็ไม่เกินไปนัก ส่วนเรื่องเครดิต ผมว่าไม่ต้องเสียดายเพราะคุณจะจ่ายหรือไม่ส่วนใหญ่ก็ติด black list อยู่ดี แต่ถ้าคุณได้ชำระแล้วก็สามารถแก้ไขบูโรได้ แต่ทั้งยอมจ่ายดี ๆ หรือนำรถไปซ่อน คุณก็ไม่สามารถกู้กับไฟแนนท์เก่าได้อยู่แล้ว
| จากคุณ |
:
anti_to dictate
|
| เขียนเมื่อ |
:
7 ธ.ค. 55 11:21:28
|
|
|
|
 |