 |
" คิง คัลเล่ " คาร์ล ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้
เป็นนักเตะรูปร่างสูงใหญ่ ที่มีความเร็ว และ ทักษะในการเล่นฟุตบอลสูงมากครับ
ฉลาดในการหาพื้นที่ว่าง ยิงคมกริบ และ ทรงพลัง
ที่สำคัญ ยังมีความโดดเด่นในการโหม่งพังประตูอีกด้วย
ช่วงแรกที่ขึ้นมาเล่นทีมชาติเยอรมันตะวันตกชุดใหญ่ ในฟุตบอลโลกที่อาร์เจนติน่าปี 1978 นั้น
เฮลมุต เชิร์น บุนเดสเทรนเนอร์พึงพอใจในความเร็ว และ การทะลุทะลวงเข้าทำของรุมเมนิกเก้
จึงจับให้รุมเมนิกเก้เล่นในตำแหน่งปีกขวา ซึ่งรุมเมนิกเก้ก็ไม่ทำให้บุนเดสเทรนเนอร์ต้องผิดหวัง
เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างสวยงาม และ มีประสิทธิภาพ
เป็นนักเตะอินทรีเหล็กที่โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ สวนทางกับผลงานที่น่าผิดหวังของทีมในทัวนาเม๊นต์นั้น
อีก 2 ปีต่อมาในฟุตบอลยูโร 1980 ที่อิตาลี่
รุมเมนิกเก้ มีการพัฒนายกระดับฝีเท้าขึ้นมาอีกระดับ
และเป็นกำลังสำคัญที่ทีมอินทรีเหล็กจะขาดไปไม่ได้อีกแล้ว
เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าชื่นชม และ เป็นหนึ่งในคีย์แมนที่ทำให้เยอรมันตะวันตกคว้าอองรี เดอ โลเนย์ มาครองได้
ในปีนั้น เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของบุนเดสลีก้า และ ยังได้รับการโหวตให้ได้รับบัลลงดอร์ถึงสองปีซ้อน ( 1980 , 1981 ) อีกด้วย
จุดพีคในชีวิตการเล่นฟุตบอลของรุมเมนิกเก้ อยู่ในทัวนาเม๊นต์ฟุตบอลโลกที่สเปนปี 1982
ก่อนทัวนาเม๊นต์เริ่มขึ้น เขาได้รับการจับตามองไม่แพ้ มาราโดน่า และ ซิโก้
และ รุมเมนิกเก้ก็ไม่ทำให้ทุกสายตาที่จับจ้องมองมาที่เขาต้องผิดหวัง
เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แข็งแกร่ง ตั้งแต่เกมแรก
ที่เขาเป็นคนพังประตูเปิดหัวของทัวนาเม๊นต์นี้ให้แก่ทีมอินทรีเหล็ก
และมาระเบิดฟอร์มซัดแฮทริคใส่ชิลีในนัดต่อมา
ในเกมรอบที่สองกับอังกฤษนั้น แม้เกมจะจบลงด้วยการเสมอกันไปแบบโนสกอร์
แต่จังหวะที่รุมเมนิกเก้ซัดลูกบอลจากระยะเกือบ 35 หลา
พุ่งเป็นจรวดผ่านมือของ ปีเตอร์ ชิลตั้น ไปกระแทกกับคานบนเสียงสนั่น ก็เป็นช็อตที่น่าจดจำช็อตหนึ่งในทัวนาเม๊นต์นั้น
แต่แล้วความโชคร้ายก็มาเยือนรุมเมนิกเก้ เขาเกิดอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขาในเกมนัดต่อมากับสเปน
ถึงแม้ว่าในท้ายที่สุดทีมอินทรีเหล็กจะผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศได้
แต่รุมเมนิกเก้ก็มีความพร้อมของร่างกายไม่เต็มร้อยซะแล้ว
ในช่วงเวลาปกติในเกมที่เยอรมันพบกับฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศนั้น รุมเมนิกเก้ต้องนั่งจับเจ่าเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนาม
จนในช่วงต่อเวลาพิเศษ ที่ทีมอินทรีเหล็กอยู่ในช่วงวิกฤติโดนทีมตราไก่นำห่างออกไปถึง 3 ประตูต่อ 1
จุ๊บป์ แดร์วาลด์ บุนเดสเทรนเนอร์ต้องตัดสินใจส่งรุมเมนิกเก้ที่ขาดความสมบูรณ์ลงไปกูวิกฤติ
ถึงแม้ว่าเขาจะเจ็บแสนเจ็บ แต่ รุมเมนิกเก้ก็เป็นคนพังประตูตีตื้นให้ทัพอินทรีเหล็กมีแรงฮึดกลับมาได้
ในนัดชิงชนะเลิศกับอิตาลี่นั้น
รุมเมนิกเก้ มีความสมบูรณ์ไม่ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่จากการเป็นตัวความหวังของคนทั้งชาติ
ทำให้ แดร์วาลด์ ต้องจำใจส่งเขาลงสนามตั้งแต่เริ่มเกม
และเขาก็ทนเล่นทั้งๆที่เจ็บขนาดหนักอยู่จนถึงปลายเกม จนทีมต้องเปลี่ยนตัวเขาออกในที่สุด
ถึงแม้ว่าทัวนาเม๊นต์นั้น เยอรมันตะวันตกจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน
แต่ รุมเมนิกเก้ ก็ทำประตูไปได้ถึง 5 ลูก เป็นรองแค่ เปาโล ร็อซซี่ ที่ทำได้ 6 ประตูครองดาวซัลโวในทัวนาเม๊นต์นั้นไป..
หลังจากฟุตบอลโลกที่สเปนจบลงไป ในปี 1984 อินเตอร์ มิลาน ก็ใช้เงินมหาศาลดึงตัวรุมเมนิกเก้มาจากบาเยิร์น มิวนิค
ซึ่งเขาก็ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งในลีคกัลโช่
แต่จากเกมที่หนักหน่วงของลีคอิตาลี่ ทำให้แผลเดิมของเขาต้องกำเริบขึ้นมาอีก
ทั้งในศึกยูโรปี 1984 ที่ฝรั่งเศส และ ในฟุตบอลโลกที่เม็กซิโกปี 1986
รุมเมนิกเก้ จะมีอาการบาดเจ็บเป็นเพื่อนติดตัวของเขาอยู่แทบจะตลอด
ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยสมบูรณ์เต็มร้อย
แต่ในทัวนาเม๊นต์กลางแดดจ๊าที่เม็กซิโก รุมเมนิกเก้ก็เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทัพอินทรีเหล็กฟันฝ่าเข้าไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศ
และ เขาก็เป็นคนที่จิ้มบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายของอาร์เจนติน่า เป็นประตูตีตื้นให้ทีมมีลูกฮึดกลับมาตีเสมอทีมฟ้าขาวได้
ก่อนที่จะมาโดนทีเด็ดของ มาราโดน่า & เบอร์รูชาก้า ในช่วงท้ายเกมทำให้อินทรีเหล็กต้องผิดหวังเป็นคำรบที่สอง..
หลังจากนั้น..
จากอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าไม่ห่างหาย ทำให้รุมเมนิกเก้จำใจแขวนสตั๊ดอำลาลูกหนังไปในปี 1989
หลังจากย้ายออกจากอินเตอร์มาเล่นช่วงสุดท้ายในสวิสเซอร์แลนด์กับทีมเซอร์เว๊ตต์ เจนีวา อยู่เพียงช่วงสั้นๆ
ทิ้งตำนานการเป็นกับตันทีมชาติเยอรมันตะวันตกชุดรองแชมป์โลก 2 สมัยซ้อน
การเป็นนักเตะยอดเยี่ยมบัลลงดอร์ 2 สมัยซ้อน เอาไว้ให้คนจดจำ...
@ ส่วนเรื่องที่เอาความสามารถของ รุมเมนิกเก้ ไปเทียบกับ เวนย์ รูนี่ย์
ผมดูยังไง คาร์ล ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ก็มีฝีเท้าและความเฉียบคมในการพังประตูเหนือกว่า เวนย์ รูนี่ย์ แบบคนล่ะคลาสเลยนะครับ
ด้วยความสัตย์จริง ที่เห็นทั้งคู่เล่นมาด้วยตาของตัวเองเลยครับ.....ด้วยความเคารพ !!!
> Shine on you crazy diamond <
แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 55 10:38:23
แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 55 10:33:23
จากคุณ |
:
Romancini
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ธ.ค. 55 10:25:15
|
|
|
|
 |