ความคิดเห็นที่ 1 มันควรต้องเป้นดังภาพนี้ คือใหลผ่านตัวคนไปแล้วถึงรู้ว่าไปไม่ได้ จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 11:27:48

ความคิดเห็นที่ 2 แต่ทำไมมันถึงไม่ไหลผ่านตัวเรา มันรู้ก่อนได้ไง จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 11:28:16

ความคิดเห็นที่ 3 555  ขำดี    อยากบอกแค่ ไฟไหลเข้าไปในตัวคนแล้ว  แต่เนื่องจากแรงดันเท่ากันเพราะไม่สามารถไหลลงดินได้ ก็เลยไม่ทำความเสียหายเนื้อเยื่อที่วิ่งผ่านไงครับ จากคุณ : N8080N เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 11:44:04

ความคิดเห็นที่ 4 ความต่างศักย์ครับ   ตราบใดที่ขาอีกข้างไม่ใส่รองเท้าก็จะเกิดความต่างศักย์ไฟฟ้าก็จะวิ่งผ่านไป   แต่ถ้าใส่รองเท้าความต่างศักย์ก็จะไม่เกิดไฟฟ้าก็จะไม่วิ่งครับ จากคุณ : น้องปั้ม เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 11:45:59

ความคิดเห็นที่ 5 น้ำไหล่ผ่านร่างกายช้าๆ ไม่ทำอันตรายกับร่างกาย แต่ถ้าน้ำป่าไหล่บ่ามาอย่างแรงมันก็ทำอันตรายต่อร่างกายได้ ไฟฟ้า ถ้าไม่ลงดิน แรงเคลื่อนมันต่ำเกินไปครับ ที่ทำอันตรายคือ การเคลื่อนไฟฟ้าที่ไหลบ่าลงไปยังดินไงหล่ะครับ จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 11:46:27

ความคิดเห็นที่ 6 น่าจะเป็นรูป คห 2 ครับ แต่เปลี่ยนคำพูดเป็น "เฮ้ย เราวัดความต้านทานแล้ว เราผ่านไม่ได้ มันใส่รองเท้ายางแน่ๆ " จากคุณ : anawatan เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 12:06:05

ความคิดเห็นที่ 7 ชอบๆๆ คิดในมุมมมองของไฟฟ้าซะงั้น จากคุณ : รอคอย ณ ดอยหนาว เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 12:21:57

ความคิดเห็นที่ 8 ไฟฟ้าเหมือนน้ำครับ ไม่ใช่เหมือนงู ที่มันไม่ผ่านไปในตัวคนอีกเพราะมีไฟอยู่เต็มในตัวคนแล้วครับ สายไฟเป็นลำธาร ตัวคนเป็นบ่อน้ำ น้ำมันจะไหลมาเติมบ่อจนเต็มครับ พอเต็มแล้วที่เหลือมันก็จะไหลผ่านไปครับ ไม่ได้วิ่งอ้อมมาในบ่อก่อนค่อยออกไป ระหว่างที่ยังแตะสายไฟ ถ้าเอาไขควงวัดไฟที่ข้อเท้าก็จะเจอน้ำในบ่อครับ ส่วนน้ำด้านนอกก็ไหลทางเดิมไป จากคุณ : TITAN11 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 12:35:32 A:124.120.166.145 X: TicketID:309862

ความคิดเห็นที่ 9 ขอเดาว่าจริงๆ อะ มันวิ่งผ่านตัวไปแล้ว เพราะตอนแรกตัวคนไม่มีประจุ พอแตะสายไฟมันก็ชาร์จประจุเข้าตัว แต่เจอรองเท้ามันตันมันก็ชาร์จต่อไม่ได้ไม่ครบวงจร คนก็ไม่ใช่คาปาซิเตอร์ซะด้วยที่จะสะสมประจุได้เยอะๆ กระแสเลยไม่มากพอที่จะทำให้ตาย ถ้าโวลท์ไม่สูงมากนะ เราว่า ถ้าเป็นหมื่นโวลท์รองเท้าก็ไม่อาจรักษาชีวิตเราได้ แต่ถ้าไม่ใส่รองเท้า มันทางสะดวกวิ่งลงกราวนด์เลย เป็นวงจรเปิด ก็เลยตาย จากคุณ : asker2008 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 12:40:40

ความคิดเห็นที่ 10 มันไหลผ่านไปก่อนครับ พอผ่านไม่ได้ก็หยุด เกิดขึ้นในเสี้ยวของเสี้ยววินาที กระแสจึงไม่มาก ลองดูคนที่ใช้ไขควงตรวจไฟฟ้า พอแตะสายไฟปุ๊บไฟสว่างแปลว่ามีกระแสไหลผ่านคนแล้ว แต่เนื่องจากความต้านทานสูงกระแสเลยไม่มากพอที่จะทำให้ร่างกายใหม้เกรียมได้ จากคุณ : ตอบโจทย์ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 12:45:51 A:124.122.165.246 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 11 มันยังไม่ได้ไหลเข้ามาในตัวคนครับ เพราะคนที่ใส่รองเท้าอยู่ ก็จะมีความเป็นฉนวนสูง ไฟฟ้าไหลเข้ามาไม่ได้ครับ จากคุณ : My membery เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 12:49:13

ความคิดเห็นที่ 12 ยังไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับ แปลว่าไฟฟ้ามันเข้ามาในตัวเราแล้วเหรอ แล้วแบบนี้เราไม่ตายเหรอครับ แล้วระหว่างใหลเข้าตัวเราแต่ไม่เจอทางออกเลยใหลกลับไป กลับใหลผ่านเข้าตัวเราแล้วไปเจอทางออกอีกทางก็ใหลต่อไป มันต่างกันยังไงครับ ในเมื่อไฟมันก็ใหลอยู่ในตัวเราเหมือนกัน แล้วในกรณีถ้าใส่รองเท้ามันไม่ใหลผ่านแต่มันอยู่ในตัวเรา ถ้าอยู่แบบนี้นานๆ เราจะตายหรือเปล่าครับ จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 12:50:16

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นคำถามที่ดีครับ ตกลงไฟฟ้าไหลผ่านตัวคนไปหรือยังครับ^^ จากคุณ : หมาเม่น เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 13:14:28

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าเปรียบไฟฟ้าเป็นน้ำ ตัวคนก็เป็นคลองที่กั้นขอบไว้ด้วยดิน ถ้าน้ำไหลเอื่อยๆ ขอบดินที่กั้นไว้ก็ไม่เสียหาย ถ้าน้ำไหลเร็วแรง ของดินก็จะถูกน้ำเซาะจนพัง ในทุกสิ่งมีไฟฟ้าอยู่แล้ว ในตัวเราก็มี รองเท้ายากเหมือนฝายกั้นท้ายคลอง มีน้ำซึมผ่านเล็กน้อย ตัวเราเป็นผนังดินก็ไม่เสียหาย พอไม่มีฝายกั้นไม่มีรองเท้ายางน้ำ(ไฟฟ้า)ไหลเร็วแรงเซาะ ผนังดินพังทลายลงไปคือเราก็จะรู้สึกว่าถูกไฟดูดไปจนถึง ผิวหนังเริ่มไหม้หรือถึงขั้นไหม้ทั้งตัว จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 13:15:20

ความคิดเห็นที่ 15 กระแสไฟฟ้าไหลเพราะเกิดความต่างศักย์กันที่จุด 2 จุด เปรียบเทียบได้กับน้ำในท่อ ถ้าหากปลายท่อทั้งสองด้านอยู่ในระดับเสมอกัน น้ำก็ไม่ไหลไปไหน แต่ถ้าเราเอียงปลายด้านใดด้านหนึ่งให้สูง/ต่ำกว่าอีกด้าน น้ำก็จะไหล ไฟฟ้าที่ไหลอยู่ในสายไฟมีศักย์ไฟฟ้าสูงกว่าพื้นดิน แต่มีฉนวนกั้นการไหลของกระแสไฟฟ้าไม่ให้ไหลออกนอกสายไฟ เมื่อเราไปจับสายไฟที่ไม่มีฉนวนหุ้มและมีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ ความชื้นในตัวเราเป็นสื่อนำไฟฟ้าให้ไหลเข้ามาในตัวเพราะกระแสไฟฟ้าจะไหลจากจุดที่มีศักย์สูงไปหาจุดที่มีศักย์ต่ำ ทีนี้ถ้าหากเราไม่สวมรองเท้ายางหรือยืนบนฉนวน ก็ทำให้ร่างกายของเราสัมผัสกับพื้นที่มีศักย์ไฟฟ้าต่ำกว่าสายไฟ กระแสไฟฟ้าก็ไหลผ่านตัวลงไปลงพื้น เวลาช่างซ่อมสายไฟฟ้าแรงสูง เขาจะสวมชุดที่เป็นตัวนำไฟฟ้าไว้ แต่มีฉนวนป้องกันภายในชุดไม่ให้กระแสไฟฟ้าไหลเข้ามาในร่างกาย คือทำให้ชุดที่สวมใส่อยู่มีศักย์ไฟฟ้าเท่ากับสายไฟฟ้าหรือเป็นส่วนหนึ่งของสายไฟ จากคุณ : Mr. SJ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 13:35:20

ความคิดเห็นที่ 16 จริงๆ แล้วไม่ว่าใส่รองเท้า หรือ ใส่รองเท้า มันก็ครบวงจรเหมือนกันหมด ต่างกันที่ความต้านทานรวมของการครบวงจรไม่เท่ากัน ทั้งนี้ประจุไฟฟ้า (อิเลคตรอน) มันไม่ได้ฉลาด มาคำนวณความต้านทานรวมก่อนจะไหลหรอก แต่มันรู้แค่ว่า มันโดนผลักด้วย สนามไฟฟ้าความต่างศักย์แค่ไหน มันก็จะพยายามวิ่งไปตามทิศทางสนามไฟฟ้านั้นๆ เมื่อ มันวิ่งผ่านคนแล้วไม่เจอรองเท้า มันก็โดนผลักได้เร็ว ประจุไหลเร็ว กระแสสูง (แอมแปร์ เท่ากับ คูลอมบ์ ต่อ วินาที) คนก็ตาย ถ้ามันโดนผลักแล้ว เจอรองเท้ามันก็จะ ผลักได้ช้า ประจุไหลช้า กระแสต่ำ คนก็ไม่ตาย มััง....... จากคุณ : asker2008 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 13:39:52

ความคิดเห็นที่ 17 มันไม่รู้หรอกว่าคนใส่หรือไม่ใส่รองเท้า มันรู้แต่ว่าทางนี้มันไปไม่ได้เพราะความต้านทานสูง ณ จุดที่คนจับสายไฟ ความต้านทานที่จะผ่านตัวคนลงสู่ดิน = ความต้านทานของตัวคน + ความต้านทานของรองเท้ายาว(สูงมาก) เท่ากับเจอประตูปิดอยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นกระแสจึงไม่สามารถไหลผ่านตัวคนลงไปสู่ดินได้ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 14:02:31

ความคิดเห็นที่ 18 ไฟฟ้า ก็เหมือนน้ำ ตรงไหนต่ำมันก็ไหลไปตรงน้้น จากคุณ : ตังชัย เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 14:12:10

ความคิดเห็นที่ 19 เอาง่ายๆครับ แล้วคิดตามที่ผมโพสไว้ใน#8 นะครับ สมันเรียนอาจารย์ผมบอกไว้ว่าร่างกายคนเราสามารถมีไฟฟ้าบรรจุอยู่ได้เต็มโดยที่ไม่เป็นอะไร แต่อย่าให้มันวิ่งผ่านครับ มันจะเกิดความเสียหายถ้าไฟวิ่งผ่าน นึกถึงรูปใน #2 ครับ แต่ในตัวคนจะกลายเป็นสีเขียวหมดเลยครับความจริงมันเป็นแบบนั้น แต่ไฟฟ้าที่อยู่ในตัวคนมันไปไหนไม่ได้เพราะรองเท้าเป็นฉนวนกั้นไว้ ทำให้ไฟที่เหลือจะเข้ามาก็ไม่ได้มันเลยต้องไปทางเดิมครับ เหมือนบ่อน้ำที่เต็มแล้วที่ผมอธิบายไว้ แต่ถ้าเกิดไม่มีรองเท้าแล้ว น้ำจะรั่วออกจากบ่อทางที่เท้าสัมผัสกับพื้น น้ำในลำธารก็จะเติมเข้ามาทำให้เกิดการไหลผ่าน และด้วยที่ร่างกายเราความต้านทางน้อย กระแสที่ไหลเข้ามาจะสูงมากครับ แบบนี้จะเกิดความเสียหายกับเนื้อเยื่อครับถึงตายได้ แต่ถ้าสายไฟที่มันไปนั้นมีโหลดอยู่โดยโหลดที่ปลายสายมีความต้านทานน้อยกว่าตัวเรา+พื้น ไฟก็จะไหลผ่านตัวเราน้อยหน่อยก็อาจจะไม่เป็นอะไรครับ ผมเห็นอาจารย์การทดสอบโดยการให้้เพื่อนผมนั่งบนเก้าอี้ไม้แล้วจับสายไฟไว้ แล้วให้เพื่อนอีกคนเอาไขควงวัดไฟมาวัดที่ตัวคนจับครับ จิ้มตรงไหนก็ได้เจอไฟหมดครับ อาจารย์ผมทดสอบให้เห็นเลย แต่ไอ้คนจับมันก็ระแวงอยู่ดีฮากันทั้งห้องเลยตอนนั้น จากคุณ : TITAN11 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 14:23:53 A:124.120.166.145 X: TicketID:309862

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้างั้นสมมุติเราใส่รองเท้าไว้แล้วจับสายไฟให้ไฟฟ้ามันใหลมาอยู่ในตัวเราจนเต็มแล้วปล่อย แล้ววิ่งไปจับใครซักคนที่อยู่ข้างๆ ไอ้คนที่ถูกเราจับ(คนนั้นไม่ได้ใส่รองเท้า)จะโดนไฟดูดหรือเปล่าครับ รวมถึงตัวเราเองด้วย ถ้าเรามีไฟอยู่เต็มตัว พอเราไปจับอะไรซักอย่างที่เป็นตัวนำทำให้ไฟฟ้าใหลออกจากตัวเราอย่างรวดเร็ว เราจะตายหรือเปล่าครับ จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 14:35:27

ความคิดเห็นที่ 21 คห.20 ไม่ตายนะ แค่เกิดการสปาร์คขึ้นแล้วคนโดนจับก็จะสะดุ้งนิดๆหน่อยๆ จากคุณ : Gbe เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 14:49:29

ความคิดเห็นที่ 22 คห. 20 คล้ายกับคำถามที่ถามเรื่องถูกไฟช็อตเวลาจับรถเข็นในห้างหรือประตูรถในเวลาอากาศแห้ง ถ้าคุณใส่รองเท้าและรับไฟฟ้าเข้ามาจนเต็ม ก็เหมือนกับคุณเป็นแบตเคอรี่ที่รับพลังงานไฟฟ้าเข้ามาเก็บไว้ เมื่อไปจับคนอื่น ประจุไฟฟ้าในตัวก็ถ่ายไปให้คนอื่น ทีนี้ตัวคุณจะตายหรือเปล่า ก็ไม่แน่เพราะกระแสไฟฟ้าปริมาณมากๆ ไหลผ่านตัว อาจจะทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ จากคุณ : Mr. SJ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 14:52:18

ความคิดเห็นที่ 23 มันไม่ผ่านเข้ามาในตัวเราครับ... ทุกสิ่งทุกอย่าง มีการถ่ายเทประจุไฟฟ้ากันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้น จะเกิดศักย์ไฟฟ้าอยู่ตลอด ซึ่งจะคอยบ่งบอกไว้ล่วงหน้า เวลาที่มีการไหลของกระแสไฟฟ้าขนาดแรงสูงที่จะมาทำอันตรายเราได้ ศักย์ไฟฟ้าจะคอยบอกทิศทางของกระแสไฟที่จะวิ่งนั่นเอง จากคุณ : artech เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 15:40:19

ความคิดเห็นที่ 24 ทำความเข้าใจก่อนครับ ไฟฟ้าประกอบไปด้วย 2 อย่างคือ กระแสไฟฟ้า (I) แรงดันไฟฟ้า (V) แต่แรงดันไฟฟ้า (V) มันก็คืออันเดียวกับความต่างศักย์ครับ เช่นไฟบ้านมีแรงดัน (ความต่างศักย์) เทียบกับสายศูนย์ (นิวทรัล) 220V ทำไมต้องมีความต่างศักย์.. เพราะพลังงานที่เราจะใช้จริงๆคือกระแสไฟฟ้าครับ แต่กระแสไฟฟ้าก็เหมือนกับน้ำในสายยางครับ ถ้าไม่มีแรงดันมาผลักมัน มันก็จะไม่ไหลไป และนิสัยโดยธรรมชาติของมันคือมันจะไหลไปที่ที่ มีความต่างศักย์ต่ำกว่าเสมอ และกฎของโอห์มก็บอกไว้ว่า กระแสไฟฟ้า (I) จะแปรผันตรงกับแรงดัน (V) และแปรผกผันกับความต้านทาน (R) แต่ในทางไฟฟ้าเองก็บอกไว้เหมือนกันว่า ในวงจรที่ Open Circuit เหมือนดังในภาพ คห.1 V จะมีค่าเป็นอนันต์ครับ สรุปเลยว่ากระแสไฟฟ้า (I) ไม่ได้ไหลผ่านตัวเราแล้วมาจ๊ะเอ๋ว่าเจอรองเท้าที่เป็น (R) แล้วจึงไหลกลับทางเดิมแต่อย่างใด มันไม่ได้ไหลลงมาตั้งแต่แรกแล้ว.. แต่ทว่าตัวเราเองนั้นจะมีความต่างศักย์ (V) อยู่ครับ พูดก็คือตัวเราจะมีความต่างศักย์เท่ากับสายไฟ แต่ความต่างศักย์นั้นไม่มากพอที่จะ Flash ข้ามรองเท้า (R) ลงไปครบวงจรที่ดินได้ กระแส (I) จึงไม่ไหลลงมา ปล. ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆสุดเลยคือ ตัวเราก็จะ"คล้าย"ก๊อกน้ำที่ไม่ได้เปิดครับ ลองนึกภาพดูต่อให้คุณหันปากห๊อกขึ้นตั้งฉาก 90 องศาแต่ถ้าคุณเปิดก๊อกน้ำมันก็ไหลออกมาได้อยู่ดี เพราะมันมีแรงดันที่มาดันน้ำอยู่ครับ ในทางเดียวกัน ถ้าเราปิดก๊อกไว้ถ้าแรงดันมีไม่มากพอน้ำก็ไม่มีทางไหลออกมาได้ครับ ยกตัวอย่างที่"คล้ายๆ" ให้เห็ฯภาพง่ายๆนะครับ มันไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 55 16:07:22 แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 55 15:59:39 จากคุณ : Freedert เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 15:53:26

ความคิดเห็นที่ 25 พอจะเข้าใจแล้วครับ แต่ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า มันน่าจะเป็นแบบนี้ สายไฟเปรียบเหมือนท่อน้ำที่มีน้ำอยู่เต็ม แต่น้ำอยู่เฉยๆไม่ไหล จึงไม่มีกระแสน้ำ พอเราต่อปั๊มน้ำ(V) เข้าไปทำให้น้ำในท่อถูกดันให้ไหล เกิดกระแสน้ำ (I) ถ้าปั๊มแรงเยอะ มันก็ดันแรง กระแสก็ใหลแรง กระแสจึงขึ้นอยู่กับแรงดัน ส่วนคนเราเปรียบเหมือนถังน้ำที่มีน้ำเต็มอยู่แล้ว และไม่มีรอยรั่ว น้ำเลยอยู่นิ่งๆในตัวไม่ไหลไปไหนก็เลยไม่เกิดกระแส ก็เลยไม่อันตราย ถ้าเราต่อท่อ(สายไฟ)กับถังน้ำ(คน)ที่มีน้ำเต็มอยู่แล้ว น้ำมันก็ไม่เข้าไปในถังอีกเพราะมันเต็มแล้ว มันก็ใหลไปทางอื่นตามท่อแทน จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 16:56:34

ความคิดเห็นที่ 26 แต่ถ้าในถังน้ำ มีท่อออกหรือรอยรัว น้ำที่ถูกดันมาก็จะใหลผ่านตัวคนไปออกทางรอยรัวหรือท่อนั้นๆ เกิดกระแส และทำให้คนตาย ทั้งหมดนี่ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 16:57:23

ความคิดเห็นที่ 27 หลายคนหลงทางเพราะเอากระแสไฟฟ้าไปเทียบกับน้ำ จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 16:58:19

ความคิดเห็นที่ 28 อันตรายที่เกินจากกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน มี 2 แบบเหต ใช่ไหมครับ? 1.ผลต่อระบบประสาท 2.ความร้อน จากคุณ : Spirited Away เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 17:04:34

ความคิดเห็นที่ 29 โมเดลที่ผ่านมา ผิดครับ ถ้าจะให้อธิบาย ต้องบอกว่า โวลต์ คือแรงดัน  ถ้าเราเอาตัวเราไปเทียบกับน้ำ ตัดแนวคิดโมเดลคนออกไปเลย คนคือ R ตัวหนึ่ง ถ้าเอาไปเทียบกับน้ำ ต้องเอาไปเทียบกับ Hydroresister model คุณบอกว่า กระแสมันใหลผ่านตัวไปแล้ว "ผิดครับ" ในโมเดลนี้อธิบายได้ง่ายๆ ว่าคนคือรอยรั่ว ของท่อน้ำ (คนคือ R ) การที่บอกว่าใส่รองเท้าแล้วไฟไม่ดูด ก็เหมือนกับมีคนเอาอะไรมาอุดรูรั่วไว้ แน่นอนครับ รูรั่วก็จะโดนแรงดัน แต่จะไม่มีกระแสน้ำใหลผ่าน(จนกว่าจะถึงแรงดันที่น้ำซึมออกมาได้) แต่ถ้าคนไม่ใส่รองเท้า คือการเอาที่อุดออก น้ำก็จะใหลผ่านรูรั่ว มากน้อยแค่ใหนขึ้นอยู่กับความกว้างของท่อเทียบกับตวามกว้าของรู ซึ่งคือ R จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 17:11:08

ความคิดเห็นที่ 30 แล้วถ้าแรงดันเป็นพันๆvolt มาเจอคนใส่รองเท้าจะเป็นอันตรายกันคนมั๊ยครับ จากคุณ : tt (chat725) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 17:25:04

ความคิดเห็นที่ 31 #25 & #26 ไม่ใช่ครับ ผมยกตัวอย่างที่"คล้ายๆ" ครับ กระแสไฟฟ้าไม่ใช่น้ำ มันไม่ได้ไหลลงมาที่เรา เพียงแต่ในตอนที่เราจับตัวนำไฟฟ้านั้นๆอยู่ ตัวเราจะมีศักย์เทียบเท่ากับตัวนำไฟฟ้านั้นๆครับ แต่แม้เราจะมีศักย์เทียบเท่ากับตัวนำไฟฟ้านั้นๆ แต่กระแสไม่สามารถไหลผ่านเราลงมาครบวงจรได้ มันจึงไม่ไหลลงมาครับ ตัวของเราในสภาวะที่มีศักย์ไฟฟ้าอยู่ในตอนนั้น ก็เป็นเหมือนช่องทางที่จะสามารถทำให้กระแสไหลผ่านตัวเราทุกเมื่อครับ ตัวเราไม่ได้รั่วซึม ตัวเราไม่ได้กักเก็บไฟฟ้า แต่กระแสไฟฟ้ามันไม่ได้ไหลลงมาครับ ลองไปอ่านบรรทัดแรกๆดู ว่าเราต้องแยกก่อน ไฟฟ้ามันมีทั้ง V และ I ในสภาวะนั้นเราจะมีแค่ V ครับ เราไม่ได้มี I จากคุณ : Freedert เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 17:29:32

ความคิดเห็นที่ 32 #30 ขึ้นอยู่กับรองเท้าและพื้นที่ที่รองเท้ายืนทับอยุ่ครับ ในสภาะนั้น แม้แต่ปลายนิ้วก้อยที่เท้าเราก็จะมีความต่างศักย์เป็น 1000 Volt เหมือนกันนั่นแหละ ถ้า R ไม่มากพอ มันก็ Flash ลงไปที่ดินได้เหมือนกัน จากคุณ : Freedert เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 17:31:10

ความคิดเห็นที่ 33 จริงๆแล้วทุกอย่างเป็น R หมดเลยหรือเปล่าครับ เพียงแต่มีค่ามากน้อยต่างกันไป แม้แต่สายไฟก็คือ R ที่มีค่าน้อยสุดๆ แบบนี้หรือเปล่า จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 17:32:30

ความคิดเห็นที่ 34 คือไม่รู้จะอธิบายไงแฮะ ในสภาวะที่เราใส่รองเท้าแล้วจับตัวนำอยู่มันจะเหมือนงจรนี้อะ จากคุณ : Freedert เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 17:45:13

ความคิดเห็นที่ 35 แต่ถ้าเอาสายไฟที่มีความต่างศักย์ต่างกันมากๆๆ หรือเอามาจ่อลงดินโดยตรง จะเป็นแบบวงจรนี้ จากคุณ : Freedert เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 17:47:39

ความคิดเห็นที่ 36 แต่ถ้ารองเท้าไม่ดี หรือไม่ได้ใส่รองเท้า แล้วไปจับสายไฟก็จะแบบในวงจร ก็คือเราก็จะกลายเป็น Load ในวงจรทันทีครับ ส่วนที่คุณกล่าวมาว่าสิ่งใดๆล้วนเป็น R นั่นก็ถูกแล้ว แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 55 18:10:30 จากคุณ : Freedert เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 17:54:13

ความคิดเห็นที่ 37 #34 V = Infinity!!!  แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 55 23:01:24 จากคุณ : asker2008 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 23:01:09

ความคิดเห็นที่ 38 #34 ตามรูปนั้น ผมเกรงว่า ท่านจขกท จะไม่เข้าใจนะครับ จากคุณ : izea (เอโดงาว่า) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 01:17:05

ความคิดเห็นที่ 39 ฮ่าๆ เกรงว่าจะไม่เข้าใจจริงๆด้วย จากที่อธิบายมามันก็ดูเหมือนจะตรงกับที่ผมเข้าใจอยู่แล้วนะ แต่ทำไมถึงว่าไม่ตรงผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ถ้าจะเพิ่มเติมให้ตรงก็เปรียบตัวคนเป็นถังน้ำเหมือนเดิม แต่เป็นถังที่มีก้อนกรวดใส่อยู่ ทำให้น้ำใหลผ่านยากกว่าใหล่ผ่านไปตามท่อ(สายไฟ) นั่นก็หมายถึงตัวคนก็เป็นตัวต้านทานนั่นเอง น้ำยังใหลผ่านได้แต่ใหลผ่านยากกว่า แต่หลักการอื่นๆก็ยังเหมือนเดิม แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 55 18:21:31 จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 18:20:34

ความคิดเห็นที่ 40 คห.34 Vไม่ใช่ infinity นะ  อันนั้น V=x ส่วน R ต่างหากที่เป็น infinity คห.35 I infinity เกิดจากการหาร V ด้วย R ซึ่งถือว่า R=0 กระแสไฟฟ้าเกิดจากการไหลของประจุอิเล็กตรอนครับ กรณีที่เราใส่รองเท้าตัวคนจะเป็นฉนวนไฟฟ้าอย่างนึง คุณสมบัติอย่างหนึ่งของฉนวนไฟฟ้าคือมันมีความสามารถในการเก็บประจุครับ เรียกง่ายๆว่าเป็นตัวเก็บประจุ เมื่อคนเราแตะเข้ากับแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้า จะรับเอาประจุไฟฟ้าเข้ามาในร่างกายจนมีศักย์เท่ากับแหล่งจ่ายไฟนะครับ เราจะพบว่าเมื่อตัวเรามีศักย์ไฟฟ้าเท่ากับแหล่งจ่ายไฟแล้ว ประจุไฟฟ้าจะไม่ไหลเข้ามาอีกครับ โดยทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในระยะเวลาระดับ micro second เมื่อเราไปสัมผัสกับวัสถุ หรือคนข้างๆ ประจุไฟฟ้าในตัวเราจะวิ่งเข้าหาวัตถุที่มีศักย์ไฟฟ้าต่ำกว่า คนที่ได้รับประจุไฟฟ้า จะรู้สึกสะดุ้งเพราะประจุไฟฟ้าไปกระตุ้นระบบประสาท จากคุณ : Gbe เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 03:55:50