Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ยุ่งนักรักคนเสื้อกาวน์ รักโรแมนติกวงการแพทย์ บทที่ 28 คู่หูกู้ชีพ ยกกำลังสอง vote ติดต่อทีมงาน


"พี่ภู!" ปันนาอุทาน
ภูวดลในชุดเสื้อกล้ามสีขาวโชว์เรือนร่างหนั่นแน่นสมชายชาตรี ส่งยิ้มให้หล่อนอย่างอ่อนโยน นิ้วมือแกร่งกำลังเคลื่อนไหวกระชับเสื้อของเขาบนตัวปันนา 
 
ยังไม่ทันที่ปันนาจะเบี่ยงตัวหนี 
เสื้อคลุมยูกาตะตัวใหญ่ก็คลี่ห่มลงไปบนตัวของปันนาทับเสื้อเชิ้ตของภูวดลอีกที
 
สองคนหันไปมองพร้อมกัน
เด็กแจ๋วนั่นเอง 
สาวใช้ของปันนาเหลือบมองภูวดลด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนัก หล่อนแทรกตัวเข้ามา  ดันจนภูวดลต้องถอยร่นห่างออกไป
 
ใจปันนาสว่างแวบขึ้นมาทันที
ที่แท้กระเป๋าที่แจ๋วลากตามมาด้วยคือเสื้อคลุมยาวตัวนี้นี่เอง
 
เฉินฮ่าวหมิง ต้องเป็นเขาแน่ ที่สั่งเด็กรับใช้เตรียมพร้อมราวกับจะรู้ล่วงหน้าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับปันนา
ถึงตัวไม่อยู่ แต่ก็ยังเป็นห่วงหล่อน
 
แปลกจริงหนอ
 
วีรบุรุษผู้เข้ามาปกป้องหล่อนคนแรกคือภูวดลแท้ๆ แต่ใจปันนากลับไพล่ไปคิดถึงคนอยู่ไกล 
 
"คุณหมอคะ เข้าไปเปลี่ยนเสื้อข้างในกันเถอะค่ะ" เด็กแจ๋วเอ่ยชวน พลางโอบเอวปันนาพาเดินออกห่างจากชายหนุ่มหน้าตาดี 
 
เจ้านายรู้คงไม่ชอบแน่
 
หากภูวดลยังเดินตามมา 
 
"กล้วย ไม่เป็นไรใช่ไหม?" เสียงทุ้มนุ่มที่เคยคุ้นถามอย่างอาทร เป็นห่วงไม่ต่างจากในอดีต พลางใช้สายตาสำรวจดูว่าหล่อนได้รับบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า
 
"ไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะ" ถึงภูวดลกับหล่อนจะเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน จนถึงขั้นตั้งปณิธานจะไม่พูดกับเขาอีกเลย 
และถึงใจปันนาอยากจะถอดเสื้อคืนให้ชายหนุ่ม แต่นี่ไม่ใช่สถานที่เหมาะสม และยิ่งเป็นการกระทำที่ไม่สมควรด้วย 
ความรู้สึกส่วนตัวต้องเก็บไว้ทีหลัง
 
ที่สำคัญเขามีนํ้าใจลงจากที่นั่งเป็นคนแรกมาช่วยหล่อนให้พ้นความอับอายทันท่วงที 
จะทำเฉยก็ออกจะใจดำเกินไป 
 
"เดี๋ยวรอฉันที่หน้าห้องแต่งตัวนะคะ จะคืนเสื้อให้" แต่ถึงจะสำนึกบุญคุณอย่างไร หล่อนก็ยังแสดงความห่างเหินให้เห็นได้ชัด
 
"ไม่คิดจะซักให้พี่ก่อนหรือจ๊ะ ก่อนจะเอามาคืน"
เขาท้วง น้ำเสียงเหมือนล้อเลียน
 
ปันนาเม้มปาก
 ก็ไปซักเองดิ ทำยังกับว่าถ้าไม่โดนตัวหล่อนแล้วเขาจะไม่ซักเสื้อหรือไร
 
หากเมื่อปันนาเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาเป็นชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์อย่างเดิม ออกจากห้องแต่งตัวพร้อมเด็กแจ๋ว
ภูวดลก็หายตัวไปแล้ว 
 
หญิงสาวฝากเสื้อภูวดลที่พับเรียบร้อยไว้ในกระเป๋าเด็กแจ๋วรวมกับชุดยูกาตะของฮ่าวหมิง ก่อนจะตรงไปยังห้องปฐมพยาบาลเพื่อดูอาการหมอวิกรมและทำแผลที่คางกับหัวเข่าของตัวเองตอนตกจากแสตนด์เชียร์
 
เมื่อมาถึง กัปตันทีมโรงพยาบาลตื่นรู้ตัวดีแล้ว กำลังนอนกลอกตาไปมาบนเตียง มีโคลด์แพ็กโปะหน้าผากอยู่ 
ข้างเตียง หมอโอภาสกับเพื่อนแพทย์สามสี่คนกำลังรุมล้อมซักถามอาการ
 
"สงสัยอากาศร้อนจัด ถึงเลือดลมแปรปรวน"
เสียงหมอโอภาสสันนิษฐาน
 
"ไม่ต้องไปทำเอ็มอาร์ไอหรือพี่ภาส"
หมอหนุ่มหน้าตี๋ที่เคยยืมพอร์ชสปอร์ตคันงามของหมอวิกรมประจำเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเพื่อน
 
"ไม่ใช่หมอนิวโร อย่าเจือกทำรู้ดี ไอ้เบื๊อก" หมอวิกรมพูดเสียงขุ่น เจ้าตัวย่อมรู้ถึงปฐมเหตุของโรคดี
 
"เป็นไงบ้าง กรม" เสียงทักทายจากหมอปันนาดังขึ้นหน้าประตูห้อง
หมอคนอื่นหลีกทางให้ผู้มาใหม่เข้าไปยืนข้างเตียง
 
 หมอวิกรมรีบลุกขึ้นนั่ง เอามือปัดเจลออก ทำยืดอกท่าทางแข็งขันสมชายชาตรี 
 
ขณะเดียวกันก็พยายามบังคับสายตาไม่ให้กดต่ำลงกลางตัวปันนา หากกระนั้นภาพต้นเหตุของอาการเลือดกำเดาพุ่งกระฉูดก็กลับตามมาหลอกหลอนในมโนภาพอีกครั้ง
 
แต่แล้วเจ้าตัวก็สะดุ้งเฮือก เมื่อเสียงขู่ฟอดของปันนาดังขึ้น
 
"ลืมให้หมดว่าเห็นอะไร ไม่งั้นเจ็บ" 
 
หมอหนุ่มจึงรู้ตัว ไอ้ตาไม่รักดี ไม่เชื่อฟังเจ้าของ ดันแอบหนีไปป้วนเปี้ยนกลางลำตัวปันนาจนได้ 
เจ้าหล่อนจึงรู้ตัว รู้ความคิดเขาหมด
 
หมอวิกรมรีบดึงสายตากลับขึ้นมาในบัดดลเพื่อจะเผชิญตาแววาวราวแม่เสือดาวของปันนา
 
"กล้วยมาพอดี เดี๋ยวกลับโรงพยาบาลด้วยกันสิ ผอ.เลี้ยงขอบคุณพวกดาราที่มาช่วยงาน"
หมอโอภาสเอ่ยชวนอย่างคนไม่รู้เรื่องรู้ราว 
 
"ไม่ล่ะ กล้วยกลับก่อนดีกว่า เกรงใจคนขับรถ มืดแล้ว"
 
"อื้อฮือเดี๋ยวนี้กลายเป็นคุณนายไปแล้วนะ มีคนขับรถประจำตัวด้วย"
เพื่อนหมอศัลยกรรมรุ่นเดียวกันเอ่ยล้อเลียน
 
หมอวิกรมหน้าซีด ไอ้มาเฟียนั่นตามคุมยายกล้วยทุกฝีก้าว มีคนขับรถตามรับตามส่ง ยังให้เด็กรับใช้ตามมาถึงในงาน
อยากร้องไห้ กลัวใจยายกล้วยเหลือเกิน
จะเห็นผิดเป็นชอบ 
เห็นขี้ดีกว่าใส้ 
 
"ไม่ใช่หรอก เขากลัวเราพลาดทำงานให้เขาไม่ดี"
"ไม่เห็นเกี่ยวกัน ใครเชื่อก็บ้าแล้ว" หมอวิกรมขัดขึ้น
 
'คนบ้า' หันมามองค้อน 
 
"ก็จริงนี่ เขาบอกถ้างานส่วนตัวไม่เรียบร้อย หมอก็ดูแลคนไข้ไม่มีประสิทธิภาพ" 
 
"มีเหตุผล" หมอโอภาสเห็นด้วย "นักธุรกิจก็อย่างนี้แหละ คิดอะไรคำนึงถึงผลประโยชน์เป็นหลัก"
 
หมอกล้วยรีบพยักหน้าหงึกหงัก เหมือนจะย้ำใจตัวเองให้เชื่อไปด้วย เพราะถ้าหล่อนไม่เชื่อเหตุผลข้อนี้ หล่อนต้องคิดถึงเหตุผลข้ออื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อยากคิด
 
"ก็ไอ้ผลประโยชน์นี่แหละครับที่เป็นปัญหา" หมอวิกรมรีบแย้งก่อนจะหันมาเตือนหมอกล้วย
 
"ยายกล้วย เธอก็ระวังตัวไว้ด้วย ผู้ชายน่ะ ขอให้เป็นผู้หญิง ถึงจะขี้เหร่แค่ไหน คลำดูไม่มีหาง มันก็อึ้บได้"
หมอที่ยืนฟังอยู่ ส่ายหน้า
ไอ้กรมเอ๋ย :-)ตายเพราะปากอีกแล้ว
 
"ไอ้กร๊วก" เสียงปันนาโกรธขึ้ง
 
หนอยแน่ะ แอบว่าเราขี้เหร่
ผู้หญิงต่อให้ไม่สนใจความสวยความงามแต่ก็ไม่ชอบให้ใครมาว่าไม่สวย 
 
นี่ถึงขั้นขี้เหร่ ยิ่งรับไม่ได้ 
 
"ไอ้หัวเน่าๆ" ไม่ว่าเปล่ายังคว้าหนังสือนิตยสารข้างโต๊ะหัวเตียงขึ้นฟาดไปที่ 'หัวเน่าๆ' "ไอ้ตาสำส่อน คิดแต่เรื่องใต้สะดือ สมน้ำหน้า เลือดกำเดาพุ่งๆ" ทั้งตะคอกทั้งแช่ง
 
"ใช่สมน้ำหน้าด้วยคน :-)พูดอย่างนี้นี่ เห็นยายกล้วยแค่ผู้หญิงหน้าตาขี้เหร่ไม่มีหางแค่นั้นหรือวะ ไอ้กร๊วก"
เพื่อนอีกคนรุมด่า แอบย้ำความโกรธให้ปันนาอีกระลอก
 
"ไม่ใช่" วิกรมรีบโบกมือปฏิเสธ "ฉันแค่เปรียบเทียบให้ฟัง ว่าผู้ชายบางคนชอบเห็นผู้หญิงเป็นเครื่องเล่น ดูหน้าไม่รู้ใจ ทำดีด้วยก็เพื่อหลอกให้ตายใจ อย่าไปหลงลมมันง่ายๆ โดยเฉพาะผู้ชายที่มีเจ้าของแล้วนี่ ตัวอันตรายสุดๆ"
 
":-)เป็นพ่อยายกล้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ กูว่า:-)แค่เอาตัวรอด ไม่ให้ยายกล้วยเป็นแม่:-)ได้ก็พอแล้ว" 
 
หมอหนุ่มหน้าตี๋ ที่มีชื่อสมนิสัยไอ้เบื๊อกอดขัดคอไม่ได้
 
"กล้วยอย่าเข้าใจผิดนะจ๊ะ กล้วยน่ารักเสมอสำหรับกรม" หมอวิกรมแอบประจบแต่คนน่ารักของเขาเดินหนีไปให้พยาบาลทำแผลไปแล้ว 
 
เขาจึงหันมามองเพื่อนอย่างคาดโทษ 
 
"ไอ้เบื๊อก :-)ระวังไว้ ไอ้ปากไม่มีหูรูด" 
 
"กล้วยก็อย่าไปโกรธเจ้ากรมมันเลยนะ มันเตือนเพราะหวังดี"
 
หมอโอภาสที่เดินตามปันนามา รีบออกตัวช่วยหมอรุ่นน้อง
 
"ไม่ใช่หวังดีหรอก เขาเรียกว่าดูถูก" หมอกล้วยพูดฮึดฮัดระหว่าพยาบาลช่วยทำแผลให้ 
 
"คราวก่อนมันพูดแรงกว่านี้ กล้วยยังอภัยให้มันได้เลย ครั้งนี้แค่จิ๊บๆ"
 
"เดี๋ยวๆ พี่ภาสรู้ได้ไง"
 
"เขาก็รู้กันทั้งโรงพยาบาล"
"พี่โอภาส" หมอวิกรมรีบส่งเสียงห้ามแต่ไม่ทัน
 
โอภาสรู้ตัว หุบปากทันที 
 
แทนที่จะเป็นท้าวมาลีวราชช่วยไกล่เกลี่ยสงครามเสื้อกาวน์รุ่นมินิฟลายเวทกลายเป็นตัวบ่าง(ช่างยุ)แทน
ปันนาเลยยิ่งงอนหนัก 
 
หลังทำแผลเสร็จ ก็ขอตัวกลับ ไม่ยอมพูดกับหมอวิกรม แม้ฝ่ายนั้นจะตามมาไหว้ประหลกๆ หล่อนก็เชิดใส่
 
 
หญิงสาวเดินออกมาตาม หาเด็กแจ๋วที่นั่งรออยู่ข้างนอก แต่กลับไม่เห็นตัว
 
หล่อนจึงโทรไปหาซานหลงบอกว่าพร้อมจะกลับบ้านแล้ว
 
ให้เขามารับหล่อนที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน
 
"แจ๋วอยู่ด้วยหรือเปล่า"
เสียงแจ๋วๆของเด็กแจ๋วลอดโทรศัพท์มาทันที
 
"หนูออกมาแล้วค่ะคุณหมอ"
 
 แหมออกไปรอที่รถก็ไม่บอก 
 
หญิงสาวแอบนึกในใจขณะเดินออกมารอที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน ตาก็คอยมองไปที่ถนน 
 
หารถเก๋งเมอร์เซเดส เอสแอลอาร์ แมคลาเรนสีเงินที่ซานหลงขับมาส่งเมื่อตอนบ่าย นั่งรอไม่ถึงห้านาที 
 
บูกัตติ เวย์รอน ซูเปอร์สปอร์ตสีขาวคุ้นตาก็โฉบเข้ามาจอดเทียบริมฟุตบาทที่หล่อนนั่งอยู่ พร้อมเสียงบีบแตรดังสนั่นสองสามครั้ง
เรียกสายตาของทุกคนในบริเวณป้ายรถเมล์ให้พุ่งตรงไปที่รถและคนขับ ด้วยความสนอกสนใจ
 
ปันนาก็เช่นกัน หล่อนเขม้นมองเข้าไปในรถ แล้วก็เลิกคิ้วประหลาดใจ
 
เฉินฮ่าวหมิง!
 
แม้จะรู้สึกคาดไม่ถึง หากท่ามกลางความรู้สึกทั้งมวลปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความดีใจแฝงอยู่ด้วย เล็กน้อย 
แค่เล็กน้อยเท่านั้นนะ
 
เมื่อหญิงสาวก้าวเข้าไปนั่ง ยังไม่ทันเรียบร้อย ซูเปอร์สปอร์ตคันหรูก็กระชากตัวออกไปทันที
 
ศีรษะหล่อนจึงโขกกับกระจกหน้ารถอย่างจัง
 
หล่อนยกมือขึ้นคลำหน้าผากป้อยๆหันหน้ามามองคนข้างๆอย่างตำหนิ
ไปกินรังแตนมาจากไหน แถมเอามาฝากหล่อนด้วยรังใหญ่
 
ขอบอก ไม่ได้เรียกให้มารับนะ 
 
"ตามมันมาดูทำไม"
จู่ๆเขาก็ตะคอกเสียงถาม 
 
ปันนาสะดุ้ง ยังไม่ทันต่อว่าเรื่องการขับรถไม่มีมายาทของเขาเลยโดนตะคอกสวนมาเสียแล้ว แถมไม่รู้มาฮึ่มๆเรื่องอะไร
 
"'มัน' นี่หมายถึงคนหรือแมวคะ" หล่อนถามกวนๆ เพราะไม่เข้าใจความหมายของคำถาม
ดูเหมือนคนถามจะรู้ตัว เขาจึงเงียบไป พยายามสงบสติอารมณ์เต็มที่
"ว่างไคะ คุณเฉิน" หมอกล้วยถามย้ำ
 
"ตามซานหลงทำไม ผมบอกแล้วว่าจะแวะไปรับคุณเอง"
 
เขาแปลงคำพูดหน้าตาเฉย "รอนานไหม?" 
 
"ไม่นานค่ะ คุณกลับมาเมื่อไหร่คะ"
 
"เพิ่งกลับ" เขาตอบสั้นๆ ก็เพิ่งกลับจริงๆ พอลงจากเครื่องบิน เขาก็ซิ่งสปอร์ตความเร็วสูงตรงมาที่นี่เลย 
 
"ทำไมแวะรับฉันได้ล่ะ มาธุระแถวนี้หรือคะ" ปันนาถามอย่างสงสัย
 
"อืม" ตอบแบบขอไปที
 
คนถามโล่งใจ เขาไม่ได้มาสนามกีฬา ไม่ได้เห็นความทุเรศของหล่อน ถ้าเห็น ป่านนี้ คงโดนอบรมไปแล้วว่า
'นี่ไง บอกแล้วให้ลองเสื้อก่อน'
 
'นี่ไง บอกแล้วให้ตั้งใจซ้อม'
 
"เห็นยายแจ๋วบอกว่าหมอเกิดอุบัติเหตุ" เสียงเขาอ่อนลงเมื่อถามประโยคใหม่ 
 
แก้มป่องของปันนาซับสีแดงระเรื่อ เมื่อนึกถึงเรื่องเปิดหวอให้คนอื่นเห็น "มีคนมาช่วย เป็นใคร" ฮ่าวหมิงกัดฟันถาม "รู้จักกันหรือเปล่า"
 
"เคยรู้จัก" หล่อนตอบเมินๆ
 
"แฟน?"
"ถามนี่เกี่ยวกับประสิทธิภาพในการทำงานของฉันด้วยหรือเปล่า"
 
"เกี่ยวสิ" เขาตีขลุม "ถ้าเป็นแฟนใหม่ๆ ก็มักจะใจลอย นั่งเคลิ้ม คิดถึงแต่แฟน"
 
"งั้นก็สบายใจได้ ฉันกับเขาไม่ได้เป็นแฟนกันไม่ว่าจะใหม่หรือเก่า"
 
ถึงจะคิดว่าไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด แต่ก็ถือเป็นการโกหกที่ฟังรื่นหูที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา  
 
แม่กล้วยกวนไม่มีอะไรกับไอ้หมอนั่นแล้ว!
 
ถึงจะยังสงสัยอยู่ว่าไอ้หมอนั่นโผล่มาทำซากอะไร ใครชวนมา แต่ชายหนุ่มก็พยายามตัดใจไม่คิดถึง คิดแล้วอารมณ์หงุดหงิด
"เป็นอะไรมากไหม" เขาถามหันมาพิศแผลที่คางของหล่อนช่วงรถติดไฟแดง
 
เพิ่งจะมานึกเป็นห่วง ชิ
 
"ไม่เป็นไรค่ะ แค่ถลอก" ตอบแล้วก็กลัวเขาจะถามต่อ 
 
แผลนี้ท่่านได้แต่ใดมา
 
คราวนี้คงได้ฟังเทศนากัณฑ์ใหญ่แน่
น่าแปลก ทำไมเขาทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนอยู่กับพี่เตยได้ก็ไม่รู้
 
"ไปกินข้าวที่ไหนดี" เขาถามน้ำเสียงดีขึ้น
 
"ที่ไหนก็ได้ แต่อย่ามาให้ฉันสั่งอาหารให้ก็แล้วกัน" หล่อนเตือนล่วงหน้า
 
ร้านอาหารที่เขาพามาเป็นสวนอาหารใหญ่ อยู่ในทิศทางที่จะตรงกลับบ้าน
 
เนื่องจากเห็นว่ามืดแล้ว อีกทั้งดูท่าฝนกำลังตั้งเค้ามาแต่ไกล ประจวบกับมีการซ่อมแซมพื้นถนนระหว่างทาง พื้นที่การจราจรหายไปเกือบสองเลน รถจึงติดเป็นแถวยาวเหยียด การพักรับประทานอาหารร้านแรกที่เจอจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด มิเช่นนั้นระหว่างการเดินทางโดยไม่รู้ระยะเวลาที่แน่นอน ยายกล้วยอาจจะหิวขึ้นมาได้ แม้ในรถเขาจะเตรียมของขบเคี้ยวให้หล่อนเผื่อไว้แล้วก็ตาม แต่มันก็เป็นแค่ประทังความหิวชั่วคราวและที่สำคัญ ยายกล้วยไม่ชอบกินของจุกจิกยกเว้นไอศกรีมและขนมหวานประเภทน้ำแข็งใสเท่านั้น
 
ระหว่างรับประทานอาหาร เขาก็ชวนหล่อนคุย
 
"เป็นไง คริสตี้มาเป็นเพื่อนซ้อมให้ช่วยได้เยอะไหม"
 
"ก็" หล่อนก้มหน้า ไม่กล้าบอกว่า หล่อนเป็นคนชวนคริสตี้ จางแตกแถวไปเล่นฟิตเนสแทน "ดีค่ะ เธอน่ารักมากนะคะ นิสัยก็ดีด้วย" หล่อนชมกิ๊กของเขาด้วยใจจริง "เป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟคมากเลยค่ะ"
 
"อืมใครๆก็ว่าอย่างนั้น" เขาพยักหน้าเห็นด้วย "ถึงจะอายุยังน้อย แต่เธอก็มีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ไม่เหมือนบางคนโตแต่ตัวหัวใจยังเด็ก ไม่รู้เมื่อไหร่จะเป็นผู้ใหญ่สักที"
 
เอ ประโยคหลังนี่ฟังทะ:-)ๆ แล้วทำไมต้องมาจ้องตาเราไม่กะพริบอย่างนี้ด้วย
ไม่ น่า ไม่ได้หมายถึงเราแน่ 
เราน่ะ หมอปันนา บริรักษ์บดีกุลเชียวนะ
 
"คุณรู้จักกับเธอมานานหรือยังคะ" หล่อนถาม ทำหน้าใสซื่อ ไม่รู้ว่ากำลังถูกว่ากระทบ
 
"อืม สักสองสามปีได้มั้ง"
 
"คุณทอฝันก็รู้เรื่องนี้สิคะ" พูดไปแล้วก็อยากตบปากตัวเอง
ไปเจือกเรื่องสามคนผัวเมียของเขาทำไม
 
"รู้สิ ทำไมหรือ"
หากคำตอบเรื่อยๆไม่รู้สึกรู้สาของเขา ทำให้ปันนาเบรคแตก
 
"ยังมีหน้ามาถามอีกหรือ คุณนอกใจเมีย มีกิ๊ก คุณไม่คิดถึงความรู้สึกของคุณทอฝันเลยหรือ เขามีสภาพแบบนี้เพราะมาออกลูกให้คุณ คุณยังเอากิ๊กมาโชว์ถึงในห้องเขาอีก"
 
เฉินฮ่าวหมิงขยับปากจะพูด จะอธิบาย แต่ปันนาไม่ยอมฟัง "คุณเป็นผู้ชายประสาอะไร ไม่มีความละอายใจบ้างเลยหรือ"
"หมอปัน..."
"คนที่คุณว่าเมื่อกี้น่ะ เป็นผู้ใหญ่แต่หัวใจยังเด็ก ก็ยังดีกว่า ผู้ใหญ่ขาดความรับผิดชอบต่อลูกเมีย ไม่ใช่ลูกผู้ชาย"
 
คราวนี้เฉินฮ่าวหมิงเริ่มโกรธ ตาคมวาวดุดัน
 
"หมอมีสิทธิ์อะไรมาว่าผม คุณรู้จักผมดีพอแค่ไหน ที่จำได้ผมไม่เคยปรึกษาปัญหาส่วนตัวกับคุณ" เสียงเขาเข้มดุ "ก่อนจะว่าใคร คุณต้องรู้จักเขา ใกล้ชิดเขาให้มากกว่านี้ แล้วคุณค่อยมาวิพากย์วิจารณ์เขา"
 
"แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาวิพากย์คนอื่น ว่าเป็นเด็กไม่รู้จักโต"
 
"ผมวิจารณ์ใคร ผมแค่พูดทั่วๆไป" เขาโต้กลับ "หรือว่าบังเอิญนิสัยที่ผมพูดเมื่อกี้ไปตรงกับคุณพอดี ถึงอารมณ์เสีย มาพาลคนอื่น"
 
หล่อนอึ้ง ไม่ใช่เพราะจนปัญญาจะโต้ตอบ แต่คำพูดของเขาจี้แทงใจดำหล่อน
 
หล่อนฉุนเฉียวระเบิดอารมณ์เต็มที่เพราะหล่อนโกรธ  
หล่อนโกรธเขาเพราะอะไร 
 
หล่อนเป็นเดือดเป็นแค้นแทนทอฝัน 
หรือตอบโต้แทนคริสตี้ จางผู้หญิงดีๆที่กลายเป็นเครื่องเล่นของเขา
 
หรือ หรือหล่อนกำลังพูดแทนตัวเอง
 
นี่หล่อนชอบเขาอย่างนั้นหรือ
ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ หล่อนจะชอบเขาได้อย่างไร
 
ใจของหล่อนมีพี่เตยอยู่เต็มหัวใจ
 
ใช่ บางทีคงเป็นเพราะหน้าตาของเขาทำให้หล่อนสับสน
 
"ทอฝันไม่ได้เป็นภรรยาของผม" ในที่สุด เฉินฮ่าวหมิงก็บอกความจริงให้หล่อนรู้ 
 
รวมทั้งจางเหม่ยหลินด้วย เขานึกต่อเองในใจ
 
"ไม่ได้เป็นเมีย แล้วเป็นอะไรคะ เป็นแค่แม่ของลูกเท่านั้นหรือ"

[ ค้นหาเว็บบอร์ดทุกโรงเรียน แวะไปล่างสุดโฮมเพจ Dek-D ]

แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 19:25:24

จากคุณ : mamahuhu
เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 19:24:26




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com