สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอโคกสำโรง
เขาวงพระจันทร์ อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองลพบุรีไปประมาณ
28 กิโลเมตร ตามเส้นทางถนนพหลโยธิน ตรงหลักกิโลเมตรที่ 178 มีทางแยกเลี้ยวขวาอีก
5 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง บริเวณเชิงเขาจะเป็นที่ตั้งของวัดเขาวงพระจันทร์
จะมีทางบันไดขึ้นไปสู่ยอดเขาประมาณ 3,890 ชั้น ยอดเขานี้สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ
650 เมตร ถ้าวัดจากเชิงเขาถึงยอดเขาโดยแนวบันไดจะยาว 1,680 เมตร ใช้เวลาเดินทางจากเชิงเขาถึงยอดเขาประมาณ
2 ชั่วโมง สองข้างทางจะเต็มไปด้วยป่าไม้ขึ้นสลับซับซ้อนเต็มไปหมด บางแห่งจะเป็นที่ลาด
บางแห่งจะเป็นที่ชัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาวงพระจันทร์จะมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้ไกลสุดสายตา
ในหน้าเทศกาลเดือนสาม
ประชาชนโดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งใกล้และไกล
จะหลั่งไหลกันมานมัสการรอยพระพุทธบาทและพระพุทธรูปบนยอดเขาแห่งนี้อย่างเนืองแน่นเป็นประจำทุกปี
สิ่งก่อสร้างและรูปแบบของการแสดงความเคารพที่วัดนี้จึงค่อนข้างจะมีอิทธิพลจีนหรือฝ่ายมหายานอยู่มาก
เขาวงพระจันทร์ได้ชื่อว่าเป็นเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดลพบุรี และเป็นภูเขาที่สร้างชื่อเสียงให้ผู้คนรู้จักเมืองลพบุรีมาช้านานแล้ว
นอกจากนั้นภูเขานี้ยังเป็นที่มาแห่งตำนานเมืองเรื่อง ท้าวกกขนาก และเรื่องพระเจ้ากงจีน
อีกด้วย
บ้านหนองแล้ง (แกะสลักหินทราย)
อยู่หมู่ที่
8 บ้านหนองแล้ง อยู่ริมถนนในตัวอำเภอโคกสำโรง มีอาชีพในการแกะสลักหินทรายเป็นรูปต่างๆ
เลียนแบบของเก่า เช่น ศิวลึงค์ ธรรมจักรกวางหมอบศิลปะทวารวดี เทวรูปสุริยเทพศิลปะทวารวดี
พระพุทธรูปศิลปะลพบุรี รูปสัตว์ต่างๆ ฯลฯ มีฝีมือดี มักนำส่งร้านขายของเก่าที่กรุงเทพฯ
และพระนครศรี อยุธยา ของที่แกะสลักล้วนเป็นขนาดใหญ่เท่าของจริง
สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอชัยบาดาล
วัดเขาสมโภชน์ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอชัยบาดาล
ไปตามเส้นทางสายบัวชุม ประมาณ 30 กิโลเมตร มีทางแยกเข้าไปประมาณ 8 กิโลเมตรจากถนนใหญ่
เขาสมโภชน์เป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ รอบๆ บริเวณร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด
ที่เชิงเขาเป็นที่ตั้งของวัดสำหรับปฏิบัติธรรม ภูเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยถ้ำต่างๆ
ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 19 ถ้ำ เฉพาะถ้ำที่ปรากฏชื่อมีดังนี้คือ
ถ้ำใหญ่ ถ้ำเจดีย์ ถ้ำเพชร ถ้ำรำวง ถ้ำสิงโต ถ้ำบ่อทิพย์ ฯลฯ ภายในแต่ละถ้ำจะแลเห็นหินงอกหินย้อยตามหลีบซอกเขาที่สวยงาม
สวนรุกขชาติน้ำตกวังก้านเหลือง
ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลท่าดินดำ การเดินทางจากตัวเมืองลพบุรีไปน้ำตกวังก้านเหลือง
ใช้เส้นทางลพบุรี - โคกสำโรง (ทางหลวงหมายเลข 1 ) จากนั้นใช้เส้นทางโคกสำโรง
- ชัยบาดาล (ทางหลวงหมายเลข 5 ) จนถึงทางหลวงหมายเลข 21 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข
21 ประมาณ 21 กิโลเมตร เลี้ยวขวาผ่านสถานีขนส่งถึงสี่แยกลำนารายณ์และตรงไปอีกประมาณ
5 กิโลเมตร จนถึงสี่แยกท่ามะนาวแล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2089
ตรงไปอีกประมาณ 13 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกวังก้านเหลืองซึ่งจะอยู่ทางขวามือ
บ้านท่าดินดำ (ทอเสื่อ) อยู่ตำบลท่าดินดำ
อำเภอชัยบาดาล ใกล้น้ำตกวังก้านเหลืองประมาณ 3 กิโลเมตร จากถนนใหญ่ เป็นหมู่บ้านพัฒนาแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี
ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพในการทำไร่ข้าวโพด และมีอาชีพรองในการทอเสื่อ
ปลูกกระเทียมพันธุ์ดีและเลี้ยงโคนม
สถานที่น่าสนใจ
ในเขตอำเภอลำสนธ
ปรางค์นางผมหอม อยู่ห่างจากตลาดหนองรีประมาณ
2 กิโลเมตร ในเขตบ้านโคกคลี ตำบลหนองรี ลักษณะของปรางค์นางผมหอมนี้ เป็นปรางค์องค์เดียวโดดๆ
ก่อด้วยอิฐไม่ถือปูน เช่นเดียวกับเทวสถานปรางค์แขก สภาพปัจจุบันยอดหักลงมาหมดแล้ว
มีประตูเข้าภายในปรางค์ได้ ภายในปรางค์เป็นห้องโถง กรอบประตูสร้างด้วยแท่งหิน
รอบๆ ปรางค์ยังมีหินก้อนใหญ่อยู่เกลื่อนกลาด ห่างจากปรางค์นางผมหอมไม่มากนักเป็นด่านกักสัตว์บ้านโคกคลี
เป็นเนินดินมีซากอิฐ เข้าใจว่าเป็นฐานวิหาร หรือเจดีย์ ชาวบ้านเรียกโคกคลีน้อย
ยังมีเนินกว้างอีกแห่งหนึ่งเรียกโคกคลีใหญ่ ที่ตั้งของปรางค์นางผมหอมมีแม่น้ำมาบรรจบกันสองสาย
คือ ลำสนธิกับลำพระยากลาง สันนิษฐานว่าสถานที่แห่งนี้แต่เดิมเป็นเมืองโบราณ
น้ำตกวังแสนดี ตั้งอยู่ใกล้ปรางค์นางผมหอม
ตำบลหนอง ห่างจากที่ว่าการกิ่งอำเภอลำสนธิไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ
7 กิโลเมตร น้ำตกแห่งนี้เป็นแก่งหินกั้นลำน้ำพญากลางทำให้เกิดเป็นน้ำตกขนาดเล็กมีต้นไม้ขนาดกลางทั้งที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ
และปลูกเพิ่มเติมให้ความร่มรื่น
สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอท่าวุ้ง
วัดไลย์ อยู่ริมน้ำบางขาม ในเขตตำบลเขาสมอคอน
ไปตามเส้นทางถนนสายลพบุรี-สิงห์บุรี ประมาณกิโลเมตรที่ 18 มรถนนแยกขวาเข้าวัด
ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเคยเสด็จไปวัดนี้
และทรงกล่าวไว้ในพระนิพนธ์เรื่องเที่ยวตามทางรถไฟไว้ว่า วัดไลย์อยู่ริมน้ำบางขาม
พ้นเขาสมอคอนไปทางตะวันตกไม่ห่างนัก เป็นวัดเก่าชั้นแรกตั้งกรุงศรีอยุธยา
แล้วปฏิสังขรณ์เมื่อรัชกาลสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ ยังมีลายภาพของเก่าปั้นเรื่องทศชาติ
และเรืองปฐมสมฌโพธิงามน่าดูนัก ที่วัดไลย์นี้มีรูปพระศรีอาริย์เป็นของสำคัญอีกอย่างหนึ่งซึ่งผู้คนนับถือกันมาแต่โบราณ
เมื่อรัชกาลที่ 5 ไฟป่าไม้วิหารรูปพระศรีอาริย์ชำรุดไป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้อัญเชิญลงมาปฏิสังขรณ์ในกรุงเทพฯ
แล้วคืนกลับไปประดิษฐานอย่างเดิม ถึงเทศกาลราษฎรยังเชิญออกแห่เป็นประเพณีเมืองมาทุกปีมิได้ขาด
ปัจจุบันทางวัดได้ก่อสร้างวิหารสำหรับประดิษฐานพระศรีอาริย์ขึ้นใหม่
ด้านหน้าเป็นรูปมณฑลจตุรมุขแลดูสง่างามมาก นอกจากนี้แล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง
เช่น พระวิหาร ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบอย่างอยุธยาตอนต้น คือ มีลักษณะเจาะช่องผนังแทนหน้าต่าง
ๆ ภายในมีพระประธานขนาดใหญ่ปางมารวิชัย ลงรักปิดทอง มีซุ้มเรือนแก้วแบบพระพุทธชินราช
จังหวัดพิษณุโลก ด้านหน้าและด้านหลังของพระวิหารมีภาพปูนปั้นเรื่องทศชาติ
และเรืองปฐมสมโพธิ์ ซึ่งนับว่าเป็นภาพประติมากรรมฝาผนังขนาดใหญ่ที่มีคว่มสำคัญยิ่งชิ้นหนึ่งของชาติ
นอกจากยังมีพระอุโบสถ และวิหารรูปมณฑปยอดปรางค์อยู่ใกล้ ๆ กับพระวิหารและพิพิธภัณฑ์ประจำวัดซึ่งมีของเก่ามากมายให้ชม
เช่น พระพุทธรูป เครื่องหมาย เครื่องลายคราม เครื่องมือ เครื่องใช้สมัยโบราณ
และอื่น ๆ อีกมากมาย
เขาสมอคอน อยู่ในเขตตำบลเขาสมอคอน
ไปตามเส้นทางสายลพบุรี - สิงห์บุรี ถึงกิโลเมตรที่ 18 เลี้ยวขวาเข้าไปอีก
12 กิโลเมตร เป็นเทือกเขาที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ มีตำนานเก่าแก่เกี่ยวกับเขาสมอคอนอยู่หลายเรื่องที่น่าสนใจจากหนังสืออักขรานุกรมภูมิศาสตร์
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน กล่าวไว้ว่า เขาสมอคอนนี้เป็นที่อยู่ของ สุกกทันตฤาษี
อาจารย์ของพระเจ้ารามคำแหงมหาราชและ พระยางำเมือง กษัตริย์เมืองพะเยา
ซึ่งน่าจะเป็นราชวงศ์หนองแส โยนก เชียงแสน ทั้งสองพระองค์ เพระเมื่อทรงพระเยาว์ได้เสด็จมาศึกษาศิลปวิทยาที่เขาสมอคอนนี้
ซึ่งสมัยนั้นกษัตริย์เมืองลพบุรีก็เป็นราชวงศ์เดียวกัน วัดที่สำคัญบนเทือกเขานี้มี
4 วัดด้วยกัน คือ วัดบันไดสามเสน วัดถ้ำตะโก วัดช้างเผือก และวัดเขาสมอคอน
นอกจากนี้ยังมีวัดที่สำคัญบนเทือกเขาแห่งนี้ ได้แก่
วัดบันไดสามเสน
วัดนี้ตั้งอยู่บนเชิงเขาสมอคอน มีทัศนียภาพที่สวยงามจะมองเห็นพระอุโบสถได้แต่ไกล
และบนยอดเขาจะมีมณฑป ภายในมณฑปจะมีพระพุทธรูปประดิษฐาน อยู่เพื่อให้ผู้ที่แวะมาชมได้นมัสการ
นอกจากนี้ยังมีถ้ำอีก 2 แห่ง คือถ้ำ วิหาร และถ้ำแสนสุข
วัดถ้ำตะโก หรือวัดถ้ำตะโกพุทธโสภา
อยู่ถัดจากวัดบันไดสามแสนไปตามเทือกเขาสมอคอนด้านทิศตะวันออก ประมาณ
1 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนเชิงเขา รอบ ๆ บริเวณวัดมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุมไปทั่ว
มีความร่มรื่น ที่วัดนี้มีถ้ำวิปัสสนา เรียกว่า ถ้ำตะโก เนื่องจากมีต้นตะโกอยู่หน้าถ้ำ
(ปัจจุบันไม่มีแล้ว) ภายในถ้ำจะมีแท่นที่หลวงพ่อเภา พระเกจิอาจารย์อันเป็นที่เคารพนับถือของชาวลพบุรี
เคยนั่งวิปัสสนาและมีพระพุทธรูปอีกหลายองค์ นอกจากนั้นก็มีเครื่องปั้นดินเผา
เครื่องลายครามต่างๆ เก็บรักษาไว้ และยังมีพระเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่บนเรือสำเภา
ซึ่งเรียกว่า พระเจดีย์ทรงเรือมรรคสัจจ์ อยู่บนยอดเขา คล้ายกับที่วัดเขาวงกตแต่ที่นี่สร้างก่อน
วัดถ้ำช้างเผือก
อยู่ห่างจากวัดถ้ำตะโกไปประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อเข้าสู่บริเวณวัดจะแลเห็นรูปช้างเผือกขนาดใหญ่
เท่าช้างจริงสีขาวปรากฏเด่นอยู่บนยอดเขา วัดนี้มีพุทธเจดีย์ ซึ่งสร้างไว้บนยอดเขาอีกยอดหนึ่ง
รอบพุทธเจดีย์มีระเบียงกว้าง สามารถเดินชมทิวทัศน์เบื้องล่างได้ ถัดจากพระพุทธเจดีย์ลงมา
คือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่นำมาจากพุทธคยา สำหรับถ้ำที่น่าชมของวัดนี้
คือ ถ้ำช้างเผือก ซึ่งเชื่อกันว่าวันดีคืนดีจะมีช้างเผือกออกมาจากถ้ำนี้
ซึ่งคนมีบุญเท่านั้นจึงจะแลเห็น
วัดเขาสมอคอน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาสมอคอน
ส่วนวัดอื่นๆ อีก 3 วัด อยู่ทางทิศตะวันตกของวัดนี้ วัดเขาสมอคอนถือว่าเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง
เพราะจะสังเกตเห็นว่ามีซากกองอิฐเก่าๆ อยู่มากมาย โบราณสถานของวัดนี้
ได้แก่ เจดีย์ทรงลังกาตั้งอยู่บนยอดเขา เหนือถ้ำพระนอนขึ้นไป บริเวณวัดเขาสมอคอนจะมีถ้ำต่างๆ
อยู่มากมาย เช่น ถ้ำพระนอน เมื่อลงไปในถ้ำแล้วจะเห็นปล่องถ้ำทะลุถึงยอดเขา
ภายในถ้ำมีพระพุทธไสยาสน์องค์หนึ่ง ยาวราว 10 เมตร ก่อด้วยอิฐขนาดใหญ่
เข้าใจว่าสร้างในสมัยอยุธยา นอกจากนั้นก็มีถ้ำพราหมณี ถ้ำชิงช้า ถ้ำน้ำ
ถ้ำไฟฉาย ถ้ำไก่แจ้ ฯลฯ
สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอพัฒนานิคม
ทุ่งทานตะวัน ตั้งอยู่ที่ตำบลช่องสาริกาใกล้วัดมณีศรีโสภณ
ทุ่งทานตะวันแห่งนี้เป็นทุ่งทานตะวันขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ดอกทานตะวันจะบานสะพรั่งในช่วงประมาณเดือนตุลาคม
- มกราคม จนกลายเป็นทุ่งทานตะวันที่มีความงดงามตามรรมชาติ การเดินทางไปชมทุ่งทานตะวันสามารถใช้เส้นทางได้
2 เส้นทาง ได้แก่
เส้นทางแรก สามารถเดินทางจากจังหวัดลพบุรี
โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ไปประมาณ 15 กิโลเมตร จนถึงสามแยกพุแคแล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข
21 ไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร ก็จะถึงทางเข้าวัดมณีศรีโสภณและให้แล้วขวาไปอีกประมาณ
2-5 กิโลเมตร ก็จะพบทุ่งทาน ตะวัน
เส้นทางที่สอง สามารถเดินทางจากจังหวัดสระบุรี
โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ไปประมาณ 15 กิโลเมตร จนถึงสามแยกพุแคแล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข
21 ไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร ก็จะถึงทางเข้าวัดมณีศรีโสภณและให้แล้วขวาไปอีกประมาณ
2 - 5 กิโลเมตร ก์จะพบทุ่งทางตะวัน
วัดพรหมรังษี อยู่บริเวณสี่แยกเดินทางจากจังหวัดลพบุรี
12 ริมทางหลวงหมายเลข 21 ตำบลดีลัง ห่างจากตัวอำเภอพัฒนานิคมประมาณ 9
กิโลเมตร เหตุที่วัดนี้มีชื่อว่าวัดพรหมรังษี สืบเนื่องมาจากในสมัยหนึ่ง
สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) ได้เดินธุดงค์และได้หยุดพักปักกลด ณ
ที่แห่งนี้ ต่อมาผู้ที่มีศรัทธาในพุทธศาสนาจึงได้ร่วมใจกันสร้างวัดและถวายนามนี้เป็นอนุสรณ์
วัดนี้มีพระอุโบสถทรงจตุรมุข พระเจดีย์ทรงระฆังคล้ายพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชและสิ่งก่อสร้างอื่นที่มีความสวยงาม
รอบๆ บริเวณมีความร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยและสะอาด ผู้ที่ผ่านไปมามักแวะชมวัดนี้เสมอ
งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
จัดขึ้นในช่วงประมาณวันที่ 16-21 กุมภาพันธ์ ทุกปี เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่มีต่อลพบุรีและประเทศชาติ
เนื่องจากเมืองลพบุรีเป็นราชธานีแห่งที่สองในสมัยนั้นที่พระองค์ทรงโปรดปรานประทับอยู่ที่นี่นานกว่าที่กรุงศรีอยุธยา
บริเวณงานส่วนใหญ่อยู่ที่บริเวณพระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ เริ่มด้วยพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระนารายณ์
ขบวนแห่ต่างๆ เช่น ขบวนแห่พระราชสาสน์ ขบวนเจ้านายชั้นสูงฝ่ายใน ขบวนทหาร
ฯลฯ การแต่งกายสมัยพระนารายณ์ฯ การแสดงการละเล่น การประดับประทีบโคมไฟในพระราชวังเพื่อทำให้บรรยากาศให้กลับคืนสู่อดีตเมื่อ
300 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีนิทรรศการพิเศษเกี่ยวกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์สมัยนั้น
ตลอดจนการออกร้านขายสินค้าพื้นเมือง
ประเพณีกำฟ้า เป็นงานบุญพื้นบ้านอย่างหนึ่งของชาวไทยพวน
ซึ่งมีอยู่หลายหมู่บ้านในเขตอำเภอเมืองลพบุรี และอำเภอบ้านหมี่ จัดขึ้นเพื่อขอพรจากเทพยดาผู้รักษาฟากฟ้าและบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล
มักจะถือเอาวันขึ้น 2 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันสุกดิบ และรุ่งขึ้น 3 ค่ำ เดือน
3 จะเป็นวัดกำฟ้า โดยชาวบ้านจะร่วมกันใส่บาตรด้วยข้าวหลามและข้าวจี่
และจะหยุดงานหนึ่งวัน ตกบ่ายมีการละเล่นพื้นบ้าน เช่น มอญซ่อนผ้า ช่วงชัย
เป็นต้น
ประเพณีใส่กระจาด หรือประเพณีเสื่อกระจาด
ตามภาษาพวน เรียกว่า ใสกระจาด เป็นประเพณีของชาวไทยพวนซึ่งถือปฏิบัติกันในเขตอำเภอบ้านหมี่
จัดให้มีขึ้นในงานเทศกาลเทศมหาชาติ ส่วนมากจะกำหนดในฤดูกาลออกพรรษา คือระยะเดือน
11 ข้างแรม ก่อนถึงวันใส่กระจาดหนึ่งวัน ชาวบ้านจะช่วยกันทำขนมห่อข้าวต้ม
ตำข้าวปุ้น รุ่งขึ้นจะเป็นวันใส่กระจาด ชาวบ้านจะนำของ เช่น กล้วย อ้อย
ส้ม ธูป เทียน หรือสินค้าอื่นๆ มาใส่กระจาดตามบ้านของคนที่ตนรู้จัก เจ้าของบ้านก็จะนำอาหารที่เตรียมไว้มาเลี้ยงรับรองแขก
เมื่อแขกจะกลับเจ้าของบ้านจะนำข้าวต้มมัดฝากไปให้ เรียกว่า คืนกระจาด
ในวันรุ่งขึ้นเป็นวันเทศน์ มหาชาติจะนำของที่แขกมาใส่กระจาดทำเป็นกัณฑ์ไปถวายพระที่วัด
โดยถือว่าการทำบุญมหาชาตินี้เป็นการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ประจำปี
ประเพณีชักพระศรีอาริย์ วัดไลย์ ประเพณีชักพระศรีอาริย์
หรือแห่พระศรีอาริย์ถือปฏิบัติกันมาช้านาน ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6
(ประมาณเดือนพฤษภาคมซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา) ของทุกปี ทางวัดจะจัดให้มีการอัญเชิญพระศรีอาริย์มาประดิษฐานบนแท่นตะเฆ่
แล้วให้ประชาชนร่วมกันชักพระไปทางทิศเหนือ เริ่มจากวัดไลย์ไปสุดทางที่วัดท้องคุ้ง
แล้วชักกลับมายังวัดไลย์ ระหว่างทางจะมีผู้เข้าร่วมขบวนเป็นจำนวนมาก
จะหยุดขบวนในแต่ละจุดเพื่อให้ผู้ที่ศรัทธาได้สรงน้ำและนมัสการ นอกจากนั้นตลอดระยะทางที่แห่พระศรีอาริย์ไปนั้นจะมีผู้ตั้งโรงทานสำหรับ
ประเพณีกวนข้าวทิพย์ เป็นประเพณีที่สืบเนื่องมาแต่พุทธกาล
ในจังหวัดลพบุรีได้มีประเพณีกวนข้าวทิพย์หลายแห่ง โดยเฉพาะที่วัดนิคมสามัคคีชัย
ตำบลนิคม อำเภอเมือง ลพบุรี ได้ทำพิธีกวนข้าวทิพย์มานานกว่า 20 ปีแล้ว
โดยจะกระทำในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6 และจะนำไปถวายในวันพระขึ้น 15 ค่ำ
เดือน 6 ส่วนที่เหลือก็จะแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ไปร่วมทำบุญในวันนั้น
ถือเป็นการให้ทาน
ดินสอพอง ดินสอพองของลพบุรีได้ชื่อว่าเป็นดินสอพองที่ดีที่สุดในเมืองไทย
เพราะว่าเนื้อละเอียดเป็นผงสะอาด นับเป็นของฟากที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ในอดีต
ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในการอุดไม้ สำหรับขัด ในการทำเครื่องใช้สอยต่าง ๆ
และใช้เป็นส่วนผสมของสีทาบ้าน และยาสีฟันอีกด้วย ปัจจุบันทำกันมากที่หมู่บ้านหินสองก้อน
สะพานอิฐ ตำบลทะเลชุบศร
ไข่เค็มดินสอพอง เป็นของฝากที่มีชื่อเสียงของลพบุรี โดยใช้ดินสอพองนำมาผสมกับเกลือและน้ำตาลตามสัดส่วน
ใช้พอกไข่แล้วคลุกเคล้าลงในขี้เถ้าแกลบเก็บไว้ตามกำหนด แล้วนำมาบรรจุกล่องจำหน่าย
ไข่เค็มดินสอพองได้รับความนิยมมากและมีการพัฒนาจนสามารถนำไปทำ ไข่หวาน
ไข่เค็มดาว ไข่เค็มต้ม มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป
เห็ดวุ้นน้ำมะพร้าว ได้รับการความนิยมอย่างแพร่หลายและมีการผลิตเป็นการค้าอย่างจริงที่ลพบุรี
โดยผลิตออกมาในรูปของอาหาร (ของหวาน) ใช้รับประทานกับน้ำแข็ง ตัววุ้นนั้นเป็นที่เกิดขึ้นในกระบวนการหมักน้ำส้มสายชูด้วยน้ำมะพร้าวกับจุลินทรีย์ที่ผลิตกรดน้ำส้ม
แผ่นวุ้นที่เกิดลอยบนผิวหน้าของน้ำส้มสายชูหมักจะมีสีขาว คล้ายดอกเห็ดขยายตัวหนาขึ้นเรื่อย
ๆ ตามระยะเวลาของการหมัก จึงเรียกกันว่า เห็ดวุ้นน้ำมะพร้าว มีตำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป
น้อยหน่า เป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดลพบุรีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่
5 ที่มีชื่อเสียงมากก็คือ น้อยหน่าพระที่นั่ง ปลูกกันมาที่บริเวณพระที่นั่งเย็น
ตำบลทะเลชุบศร น้อยหน่าเมืองลพบุรีถือกันว่ามีรสชาติดีและผลโต ปัจจุบันปลูกกันมากแถวหมู่บ้านน้ำจั้น
เขาสามยอดในเขตนิคมสร้างตนเองและบางท้องที่ในเขตอำเภอพัฒนานิคม
ส้มฟัก เป็นอาหารที่ทำจากการหมักเนื้อปลาด้วยเกลือ ข้าวสุกบด และกระเทียมดอง
นวดจนเนื้อแน่น หมักเช่นเยวกับหมักแหนม (เนื้อปลาที่ใช้ต้องเป็นปลาที่มีสีขาวละเอียด
เช่นปลากราย ปลาสลาก และปลายี่สก) ใช้เวลาหมักประมาณ 3 วัน จะเปรี้ยวได้ที่
รับประทานเป็นกับแกล้มเช่นเดียวกับแหนม แต่รสชาติคมกว่า เป็นของฝากที่มีชื่อเสียงจำหน่ายกันมากแถวตลาดบนเมือง
หน่อไม้ หน่อไม้ลพบุรีราคาถูกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูฝน เช่น
หน่อไม้สด หน่อไม้ต้ม และหน่อไม้ดอง มีขายทั่วไปตามท้องตลาด
น้ำผึ้งพัฒนานิคม ที่อำเภอพัฒนานิคมมีฟาร์มเลี้ยงผึ้งจากไม้ดอกนานาพันธุ์
รสหอมหวานและในช่วงฤดู ดอกทานตะวันบานจะมีน้ำผึ้งจากดอกทานตะวันอีกด้วย
ผ้ามัดหมี่ ผ้าขาวม้าลายไส้ปลาไหล แหล่งทอผ้าพื้นเมืองนี้ส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านกล้วย
บ้านทราย และบ้านหินปัก อำเภอบ้านหมี่ ผ้ามัดหมี่ลพบุรีได้ชื่อว่า มีคุณภาพดี
ราคาถูก ซักรีดง่าย ส่วนผ้าขาวม้าลายไส้ปลาไหล ได้ชื่อว่ามีคุณภาพชั้นยอดของเมืองไทย
เสื่อกก ทำกันมากที่บ้านท่าดินดำ อำเภอชัยบาดาล ใกล้น้ำตกวังก้านเหลืองประมาณ
3 กิโลเมตร จากถนนใหญ่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านพัฒนาตัวอย่างของ
การแกะสลักหินทรายเป็นรูปต่าง ๆ เลียนแบบของเก่า ที่หมู่ที่
8 บ้านหนองแล้ง ริมถนนในตัวอำเภอสำโรง ชาวบ้านมีอาชีพแกะสลักหินทรายเป็นรูปต่าง
ๆ เลียนแบบของเก่า เช่น ศิวลึงค์ ธรรมจักรกวางหมอบ ศิลปะทวาราวดี เทวรูปสุริยเทพ
ศิลปะทวาราวดี พระพุทธรูปศิลปะลพบุรี รูปสัตว์ต่าง ๆ ฯลฯ นำส่งร้านขายของเก่าที่กรุงเทพฯ
และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
การหล่อรูปโลหะ (ทองเหลือง) ที่บ้านท่ากระยาง เขตอำเภอเมืองลพบุรี
หลังวัดตองปุ เดิมเป็นหมู่บ้านช่างทองหล่อ มีอาชีพหล่อพระพุทธรูปด้วยโลหะ
ต่อมาเริ่มหล่อรูปโลหะอื่น ๆ เป็นของที่ระลึก และเลียนแบบของเก่าด้วย
เช่น รูปสัตว์ประจำปีนักษัตริย์ รูปหนุมาน เทวรูปพระกาฬ
สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองลพบุรี
ถนนนารายณ์มหาราชโทร.411031,421188,191
โรงพยาบาล
ถนนพหลโยธิน โทร.411250,411267
โรงพยาบาลอานันทมหิดล
ถนนลพบุรี-บ้านแพรก โทร.486011 - 5
โรงพยาบาลเบญจรมย์
ถนนลพบุรี - บ้านแพรก โทร.412160
สถานีรถไฟ ตำบลทะเลชุบศร
โทร.411022
สำนักงานจังหวัดลพบุรี
โทร. (036) 411500
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
สำนักงานภาคกลาง เขต 7 ถนนรอบวัดพระธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี 15000
โทร. (036) 422768-9 โทรสาร 422769 (พื้นที่ความรับผิดชอบ : ลพบุรี
นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี)
|