ความคิดเห็นที่ 1 ขึ้นอยูกับ "อคติ" ในการตีความนะ  ตามความคิดเรา จากคุณ : tantaro เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 08:46:36 A:125.24.176.232 X:

ความคิดเห็นที่ 2 คนประพันธ์ไม่เมาก็มึน จากคุณ : ฉันมันตัวเปล่า เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 08:55:09 A:58.9.250.244 X:

ความคิดเห็นที่ 3 มติโจร.... เนี่ยนะ บทประพันธ์วันเฉลิมฯ  สำหรับพระเจ้าอยู่หัว http://www.tnews.co.th/html/news/47087/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%88!-%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2.html#.UL_-H2fhczc จากคุณ : birdeyeview เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 09:12:14 A:124.120.176.182 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ ^ อ่านแล้วก็มึน ครับ ไม่เข้าใจว่า เขาต้องการสื่อความว่าอย่างไร คบประพันธ์ เขามีอารมณ์ศิลป์ ที่เราตีความไม่ออกมั้ง . จากคุณ : จขกท (Money_Engineer) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 09:17:28 A:119.160.218.194 X:

ความคิดเห็นที่ 5 มติชน ....กวน จากคุณ : koppolice1 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 09:18:13 A:101.109.166.195 X:

ความคิดเห็นที่ 6 บางคนอ่านหนังสือวันละไม่กี่บรรทัด  บังอาจวิจารณ์กวี.... จากคุณ : ขุนเพ็ด เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 09:27:33 A:27.131.163.139 X:

ความคิดเห็นที่ 7 อืมส์....ยังทำใจกันไม่ได้จริงๆด้วยแหล่ะ จากคุณ : ยายมี ยายมา เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 09:38:35 A:58.11.204.169 X:

ความคิดเห็นที่ 8 สืบเนื่องจากมีผู้ตั้งคำถามต่อบทอาเศียรวาท ที่ตีพิมพ์ในมติชน ฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาว่ามีความหมายอย่างไร มีความกำกวมไม่เหมาะสมหรือไม่ บทอาเศียรวาท มีเนื้อความดังนี้ วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้งลมแล้งในใจไห้โหยหาย ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร ต่อไปนี้ คือคำอธิบายจากผู้ประพันธ์บทอาเศียรวาทดังกล่าว "....อาเศียรวาทสองบทนี้ มีความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ ด้วยวิธีการเขียนบทกวีที่มีการเปรียบเทียบให้เห็นภาพ จึงใช้วันฟ้าสว่างกับวันฟ้ามืดครึ้ม วันฟ้าสว่างนั้นแม้แต่ลมแล้งในใจผู้คนที่โหยไห้ก็ยังหาย ข้าวกล้านาไร่ยังได้กลิ่นอายฝนที่มุ่งหมายมาตกต้องตามฤดูกาลย่อมหมายถึงความสว่างในพระบรมเดชาเมตตาบารมี ที่ปกเกล้าพสกนิกรและทุกสรรพสิ่ง อันเนื่องมาจากพระวิริยะอุตสาหะเช่นฟ้าฝน ชลประทาน หรืออ่างเก็บน้ำอันยังประโยชน์สม่ำเสมอแก่ไร่นา ดังนั้น เมื่อมีวันมืดครึ้ม ซึ่งแม้แต่ธรรมชาติปัจจุบันเช่นที่เห็นกันก็ผันผวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นเป็นปัญหา จึงมีหรือที่จะไม่นึกฝันถึงวันฟ้าสว่าง วันที่กระจ่างแจ้งร่มเย็นอยู่ในพระบรมโพธิสมภาร ว่าดีอย่างไร ดีขนาดไหน คือความหมายซึ่งอธิบายได้ตามตัวอักษรทุกวรรคตอน." กองบรรณาธิการหวังว่า คำอธิบายความหมาย สัญลักษณ์ และเจตนาของผู้ประพันธ์ น่าจะสร้างความกระจ่างและทำให้เกิดการตีความที่สอดคล้องกับความมุ่งหมายของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการมติชน 6 ธันวาคม 2555 ที่มา : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1354760835&grpid=00&catid&subcatid จากคุณ : ภารโรงชำนาญการ (ปลอมตัวมา) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 09:45:22 A:125.25.135.42 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ผมอ่านกี่รอบ ก็ตีความหมายได้ว่า วันที่ฟ้าสว่างไม่มีฝน จะคิดถึงฝน ส่วนวันที่มีฝน กลับคิดถึงวันที่ฟ้าสว่างไม่มีฝน แล้วมัน เทอดพระเกียรติ ตรงไหน ??? แค่คำว่าทรงพระเจริญ ง่ายกว่าไหมครับ ไม่ต้องตีความ ตรงๆเลย จากคุณ : Mccain เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 10:21:00 A:49.49.27.2 X:

ความคิดเห็นที่ 10 #3 birdeyeview เข้าใจว่าอย่างไรหรือคับ แปลความที่เข้าใจให้เพื่อได้สมาชิกได้ติชมบ้างคับ คิดว่าคงเข้าถึงความหมายได้ดีกว่าผู้ประพันธ์ จากคุณ : เข้ามาคุย เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 10:39:06 A:61.47.116.26 X:

ความคิดเห็นที่ 11 คำว่า อคติ แปลว่า ไม่เดิน, ไม่ไป หมายความว่า ไม่ควรเดิน ไม่ควรไป หรือไม่ควรประพฤติ อคติ ศัพท์นี้ตรงกับภาษาไทยว่า ความลำเอียง ความไม่เที่ยงธรรม, ความไม่ยุติธรรม (ฐานะอันไม่พึงถึง, ทางความประพฤติที่ผิด, ความไม่เที่ยงธรรม, ความลำเอียง ) - wrong course of behavior; prejudice) มีอยู่ 4 อย่างคือ 1. ฉันทาคติ แปลว่า ลำเอียงเพราะรัก  (prejudice caused by love or desire; partiality) 2. โทสาคติ แปลว่า ลำเอียงเพราะเกลียด  (prejudice caused by hatred or enmity) 3. โมหาคติ แปลว่า ลำเอียงเพราะเขลาหรือเพราะความโง่หลงงมงาย ไม่พิจารณาให้ถ่องแท้ว่าอย่างไรถูกอย่างไรผิดอย่างไรควร อย่างไรไม่ควร  (prejudice caused by delusion or stupidity) 4. ภยาคติ แปลว่า ลำเอียงเพราะกลัวหรือเพราะเกรงใจ (prejudice caused by fear) ความลำเอียงทั้ง 4 ประการนี้ เป็นอันตรายอย่างมาก ทุกยุคทุกสมัยที่บุคคลที่เป็นผู้ใหญ่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการปกครองบังคับบัญชาบุคคลอื่นด้วยแล้ว มีความลำเอียง (อคติ) อยู่เพียงข้อใดข้อหนึ่งเท่านั้น ก็จะทำให้สูญเสียความยุติธรรมขาดความอบอุ่น ขาดความมั่นใจของคนที่เกี่ยวข้องเป็นผู้น้อย เป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของบุคคลเหล่านั้น แต่ความลำเอียง (อคติ) ทั้ง 4 อย่างนี้ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะผู้ใหญ่เท่านั่น แม้แต่ผู้น้อยหรือเด็กๆ ก็อาจจะเกิดความลำเอียง (อคติ) ขึ้นมาได้เหมือนกัน เหตุนั้นพระองค์จึงตรัสเพื่อลดอคติและสร้างเสริมความเมตตาในกันและกัน ร่วมกันเร่งปฏิบัติสรรพกิจการงานให้ประสานเกื้อกูลกัน เพื่อทุกคนจะได้สามารถนำพาประเทศชาติให้ก้าวหน้าไปอย่างมั่นคง และบรรลุถึงความวัฒนาผาสุกได้โดยสวัสดิ์ดี http://www.intaram.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538759434&Ntype=19 จากคุณ : เกลือเม็ด เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 10:42:20 A:125.24.125.12 X:

ความคิดเห็นที่ 12 คำว่า รัก ใครๆ ก็พูดได้ แต่ที่ยากยิ่งกว่า คือ การทำให้รู้สึกถึง เช่นนี้ เพลงรัก ที่ไม่มีคำว่า รัก จึงเป็น ที่สุดความใฝ่ฝันของคนแต่งเพลง บท อาเศียรวาท ดาดๆ ใช้ ศัพท์ แสง สูงๆ ใครๆ ก็แต่งได้ เห็นกันมาชั่วนาตาปี ใช้คำเดิมๆ ซ้ำๆ สลับไป สลับมา แต่งไปทั้งอย่างงั้น ตามหน้าที่ แต่ บทอาเศียรวาท ที่ใช้คำสามัญ เทอดพระเกียรติ เช่นนี้ นับว่าแต่งได้ยากยิ่ง ผู้แต่ง ต้องเค้นมันสมอง เค้นความคิด คั้นเป็นความรู้สึก มีแต่ คนตาไร้แวว เห็นทองเป็นอาจม ไปทั้งสิ้น น่าเสียดายแท้ ... จากคุณ : อรุโณทัย เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 11:33:31 A:171.101.136.22 X:

ความคิดเห็นที่ 13   นาย ขรรค์ชัย บุญปาน กระไรเลย ช่างแถ ได้ ถึงใจจริง ๆ วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้งลมแล้งในใจไห้โหยหาย ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร คำกลอนในวรรค สุดท้าย " ฝันว่า ฟ้าสว่าง ดีอย่างไร " เป็น อาเศียรวาท ได้อย่างไร หา ? จากคุณ : วอน เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 11:39:03 A:125.27.246.71 X:

ความคิดเห็นที่ 14 คห 13 ใยตัดมาเพียง ประโยคเดียวแล้ว ตีความเอาเสียอย่างนั้นละครับ ใจคุณแคบเหมือนแมวน้ำเลย จากคุณ : หมีขั้วโลกกลาง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 11:48:43 A:180.183.119.61 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ขออนุญาต แปลภาษาไทย เป็น ภาษาคน "วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง ลมแล้งในใจให้โหยหาย" แปลตรงๆ ว่า วันหนึ่งท้องฟ้ามีแสงแดดส่องสว่าง บังเกิดความหวัง จิตใจที่ทดท้อ สิ้นหวัง ก็พลันหายไป สังเกตคำว่า โหย แล้ว หาย ไม่ใช่ โหย แล้ว ไห้ คำว่า โหยหาย ก็ประหนึ่งว่า ได้ น้ำ ชะโลม ใจที่อ่อนล้า "ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา" เป็นบทอัศจรรย์ ต่อเนื่องจาก บาทแรก ให้เข้าใจภาพ ว่า เป็นภาพท้องนา แสงอ่อนในฤดูฝน สูดได้กลิ่น ลมฝน ที่กำลังจะตก หากไม่อ่าน บาท ที่สอง ก็จะ งุนงง กับบาทแรก ตรงนี้ พอเกาะรอยได้ว่า ผู้แต่ง มีความตั้งใจดี ที่จะใช้ อุปลักษณ์ แต่ยังดีไม่พอ อาจเพราะ ถูกจำกัด พื้นที่ ให้เขียนได้ไม่เกิน 2 บท "วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา" เป็น บทอัศจรรย์อีกเช่นกัน ให้เห็นภาพของพายุ เมฆครึ้ม "พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร" บาท สุดท้าย คงไม่ต้องแปลแล้วกระมัง ... อันที่จริง ส่วนตัว ตีความว่า ฟ้าสว่าง ยังหมายความ ถึง สีเหลือง ด้วย เพราะฟ้าสว่าง คือ แสงทองผ่อนอำไพ เป็นสีเหลือง "ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร" ย่อมหมายถึง ความพอดี พอประมาณ มากไปน้อยไป ก็เป็น "ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา" คิดว่า คงมีใครร้อนตัว ไปตีขลุมกับคำว่า "ตาสว่างทั้งแผ่นดิน" กระมัง อคติบังตา จนไม่เข้าใจ ภาษาไทย ภาษาแม่ ของตนเอง ... แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 12:12:17 จากคุณ : อรุโณทัย เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 12:09:33 A:171.101.136.22 X:

ความคิดเห็นที่ 16 15 แล้วกลอนนี้อวยพรวันคล้ายวันพระราชสมภพยังไง ตรงไหนที่หมายถึงในหลวง ตรงไหนที่เป็นคำอวยพร จากคุณ : idolation เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:34:30 A:115.67.37.137 X:

ความคิดเห็นที่ 17 # 16 วาดสองมือถือประนบบรรจงกราบ แทบพระบาทแห่งพระองค์ทรงเทิดไท้ ดุจวิญญาณสานสร้างร่างดวงใจ ของชาวไทยให้รวมร่วมภักดี สำนึกแล้วแทนทดคงหมดไม่ ดุจบรรพตล้นใจพระทรงศรี พระคุณล้ำย้ำจิตประชาชี ดุจวารีที่เลี้ยงในจิตใจ หากชีวิตจิตนี้มีโอกาส ทดพระบาทแทนพระคุณ ณ ที่ไหน ถึงลำบากยากเค้นก็เร้นไป แม้ต้องเสียสิ่งใดก็จะยอม ... http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=9202.0 แล้วกลอนบทนี้ ตรงไหนที่เป็นคำอวยพร ? จะมีปัญหา กับแค่นี้ ใช่มั้ย ? จากคุณ : อรุโณทัย เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:13:12 A:171.101.136.22 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ผมตีความได้ว่า ช่วงเวลาหลายปีมานี้ ตั้งแต่พระองค์ท่านทรงพระประชวร ไม่ค่อยได้ออกมาให้โอวาทหรือคอยเยี่ยมเยียนราษฎรเหมือนแต่ก่อน บ้านเมืองก็วิปริต มีแต่คนกล่าวอย่างนั้นอย่างนี้ ชอบเอาพระองค์ไปอ้าง แต่กลับทำให้บ้านเมืองวุ่นวายทั้งสองฝั่ง จนมาถึงวันนี้ เป็นวันที่ชาวไทยใส่เสื้อเหลืองมาถวายพระพรไม่ได้เลือกสีเลือกเหล่า ประเทศไทยก็เหมือนจะกลับมาเป็นเหมือนสมัยแต่ก่อนคือ มีพระองค์เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรเหมือนเดิม ไม่ได้แยกเหล่าแยกกอ ไม่ได้แบ่งสีแบ่งฝ่าย แต่เป็นคนไทยด้วยกัน มีพระเจ้าอยู่หัวองค์เดียวกัน เหมือนเดิม คนประพันธ์ต้องการสือแบบนี้หรือเปล่า จากคุณ : Serial_Nuber เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 16:55:43 A:58.9.83.173 X:

ความคิดเห็นที่ 19 ขออนุญาตนะครับ ผมไม่ได้เก่งภาษาไทย แต่ผมไม่ชอบที่คุณอรุโณทัยว่าคนที่ไม่เข้าใจว่ามีอคติ ผมว่าอาจจะไม่ได้เรียกว่าอคตินะครับ พวกเค้าน่าจะมีจิตใจที่รักในหลวงมาก แค่นั้นเอง คุณคิดง่ายๆครับ ถ้ามีคนออกมาเตือนเยอะเรื่องบทความมีปัญหา การที่จะออกมาบ่นว่าคนที่ออกมาบอกว่าพวกที่วิจารณ์มีอคติ ไม่เข้าใจภาษาไทย จริงๆควรจะหันมาทำความเข้าใจกับคนไทยมากกว่านะครับ ถ้าคนส่วนนึงซึ่งเยอะพอสมควรเห็นว่ามันแปลก นั่นแสดงว่ามันต้องมีบางช่วงบางตอนแปลก แล้วบทอาเศียรวาส เป็นภาษาไทยก็จริงครับ แต่บ้านผมไม่มีใครใช้ประโยคแบบนี้พูดนะครับ เพราะฉะนั้น คุณต้องเข้าใจว่ามันตีความได้ยากระดับนึง ************************************** "พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร" บาท สุดท้าย คงไม่ต้องแปลแล้วกระมัง ... อันที่จริง ส่วนตัว ตีความว่า ฟ้าสว่าง ยังหมายความ ถึง สีเหลือง ด้วย เพราะฟ้าสว่าง คือ แสงทองผ่อนอำไพ เป็นสีเหลือง "ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร" ย่อมหมายถึง ความพอดี พอประมาณ มากไปน้อยไป ก็เป็น "ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา" คิดว่า คงมีใครร้อนตัว ไปตีขลุมกับคำว่า "ตาสว่างทั้งแผ่นดิน" กระมัง ************************************** แล้วถ้าผมจะบอกว่าการแปลความด้านบนของคุณ มีอคติล่ะครับ จริงๆแล้วคุณผิดถนัดเลยนะครับ บาทสุดท้าย ไม่ใช่ว่าไม่ต้องแปล ผมว่าเป็นบาทนึงที่มีปัญหาเลยทีเดียว ที่ว่า "ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร" มันตรงตัวตรงไหนครับ ฟ้าสว่าง เป็นคำดีจริงครับ คำว่าฝัน แล้วลงท้ายด้วย ดีอย่างไร มันกำกวมนะครับ มันแปลยังไงก็ไม่เห็นแปลว่าความพอดีอย่างที่คุณบอกเลย พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร คุณลองเอาคำแทนคำว่าฟ้าสว่างดูสิครับ ฝันว่า(คุณอรุโณทัย)ดีอย่างไร มันแปลว่าความพอดีหรอครับ มันกำกวมมาก มากซะจนคนต้องออกมาวิจารณ์ครับ ถ้าฝีมือระดับผู้ประพันธ์ หรือแปลความเก่งภาษาไทยระดับท่านอรุโณทัย มันสามารถใช้คำอื่นได้มากมายนะครับผมว่า ป.ล. ผมเข้าใจว่าผู้ประพันธ์กับทางหนังสือ มีจุดมุ่งหมายที่ดี มีฝีมือที่ดี มีความสามารถมากมาย แต่ถ้าคนส่วนนึงซึ่งจำนวนมากพอสมควรออกมาวิจารณ์ ผู้ประพันธ์ และผู้มีความสามารถทั้งหลาย ควรจะรับฟัง และเปิดใจยอมรับ เค้าออกมาวิจารณ์ไม่ได้เพราะมีอคติ เค้าออกมาวิจารณ์เพราะเค้ามีจิตใจที่รักในหลวงครับ คุณสมควรจะฟังเค้าให้มากนะครับ เป็นผู้ฟังบ้างครับ ไม่ใช่ประพันธ์ออกมา หรือนำบทความมาลง เพื่อจะสื่อสารทางเดียวกับผู้อ่าน จากคุณ : งงอ่ะดิ (งงอ่ะดิ) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 09:34:45 A:61.90.201.123 X:

ความคิดเห็นที่ 20 นั่นสิ กำกวม จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 11:42:49 A:58.9.60.56 X:

ความคิดเห็นที่ 21 ง่ายๆ ได้ใจความ แต่งเทิดพระเกียรติให้เหมือนคนอื่นไม่ได้หรอไง ทำไมต้องแปลกกว่าคนอื่น ในเมือคุณก็รู้ว่าคุณโดนจับจ้องอยู่ แทนที่จะทำอะไรให้โจ่งแจ้งเพื่อ ทุกคนหายสงสัยในตัวคุณ แต่คุณก็เลือกที่จะทำแบบนี้ ผมถามหน่อย ทำไมต้องให้คนอื่นมานั่งตีความด้วย คุณเป็นหนังสือกวีฝรั่งเศสเหรอ ... จากคุณ : okeyman เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 18:08:15 A:171.99.228.143 X:

ความคิดเห็นที่ 22 อย่าไปคิดอะไรมาก เค้าจาเขียนไรก้อชั่งเค้า เราไม่เห็นด้วยก้ออย่าไปช่วยซื้อสนับสนุนสื่อเครือนี้ (อย่าบอกนะว่าเค้ารวยแล้ว ไม่ง้อตังค์เรา) เพราะการแบนสื่ออย่าไปแคร์ว่าเค้ารวยหรือไม่ แต่จะให้รู้ว่า เราไม่ชอบ จากคุณ : น้อยมาก (น้อยมาก) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 20:08:09 A:119.160.211.66 X:

ความคิดเห็นที่ 23 17 อย่างน้อยก็มีบทสรรเสริญและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ปลวกแถได้แค่นี้หรือ จากคุณ : idolation เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 09:08:25 A:115.67.37.137 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ดูท่าทางหลายคนยังภูมิใจในความไม่รู้จักภาษาแม่ของตนเอง ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ P13041496 จากคุณ : อรุโณทัย เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 12:03:39 A:171.101.136.70 X:

ความคิดเห็นที่ 25 ุพวกที่เข้าข้างมติชน ช่างมองได้แต่ด้านเดียว คือด้านของตนเองที่เลือกจะเข้าข้างไหน (แดง?) และพยายามเสี้ยมคนเขลาเบาปัญญาให้เชื่อเหมือนตน หรือไม่งั้นก็คงมีปัญญาเท่าหางอึ่ง ไม่รู้จักคำว่า ambiguous คนเขียนกลอนนี้เขาตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วให้เขียนออกมาตีความได้สองทางขึ้นอยู่กับว่าผู้อ่านจะตีความไปทางไหน ถ้าจะตีความอย่างที่มติชนว่า ทำไมถึงไม่เขียนให้ชัดเจน ว่าตอนที่ฟ้าสว่างเพราะใคร และที่ฟ้ามืด เพราะอะไร คำว่าฟ้าสว่าง ตาสว่าง มันมีความหมายแฝงในเวบแดงล้มเจ้าอยู่แล้ว อย่างเวบใต้ฟ้าเดียวกัน และขณะนี้ในหลวงก็ยังทรงปกครองแผ่นดินไทยดูแลทุกข์สุขของพวกเราอยู่ ยังมีหน้ามาถามอีกว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร แปลว่าตอนนี้ฟ้าไม่สว่างเหรอ คนใจหมา จากคุณ : rocio (rocio) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 08:30:19 A:171.7.141.142 X: