ความคิดเห็นที่ 1 สสร. มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนจังหวัดละ 1คน  รวม 77 คน   มาจากการคัดเลือกโดยที่ประชุมรัฐสภา 22 คน แยกเป็น ผู้^^วชาญสาขากฎหมายมหาชน 6 คน ผู้^^วชาญสาขารัฐศาสตร์ หรือรัฐประศาสนศาสตร์ 6 คน ผู้มีประสบการณ์ด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน เศรษฐกิจ กฎหมาย หรือ การร่างรัฐธรรมนูญ ตามหลักเกณฑ์ที่ประธานรัฐสภาประกาศจำนวน 10 คน ตรง 22 คนนี้ เสียงข้างมากในสภา ซึ่งคือ เพื่อไทย เลือกได้ตามใจชอบ แล้วจะมาอ้างว่า คราวก่อนมาจากทหารก็ไม่ได้นะครับ  เพราะเหมือนกับ ชั้นเอาพวกเข้ามาแค่ 22 คน เอง ทีตอนทหารทำ เอามา 100% ยังได้เลย แต่มันก็คือการฮั้วอยู่ดี ................... ถ้าให้ดีตั้งได้ครับคนมีความรู้ความสามารถทำร่าง  คือ ฝ่ายค้านเลือกมา 25 คน รัฐบาลเลือกมาอีก 25 คน และ 50 คนนี้ เป็นแค่ที่ปรึกษาให้ สสร. 99 คน ที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ปรึกษาไม่มีสิทธิเสียงในการโหวตใดๆ ทั้งสิ้น ต่อมา เลือกตั้ง สสร. ถ้าพบว่า ผู้สมัครคนใด มีพรรคการเมืองสนับสนุนชัดเจน โดนตัดสิทธิทันที จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 15:08:37 A:203.156.142.33 X:

ความคิดเห็นที่ 2 จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 16:17:07 A:110.164.75.144 X:

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อไหร่ที่เลือกสสร.ก็ต้องอิงพรรคการเมือง(โดยอ้อม) ใครจะปฏิเสธ สสร.ต้องไม่อิงการเมืองครับเพราะนักการเมืองย่อมอยากได้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นผลเสียกับตัวเอง มีวิธีหาสสร.ได้อีกตั้งหลายแบบ ให้ประชาชนเลือกมาสัก3-400คน(จังหวัดละ5คน) แล้วเอามาจับฉลากเหลือ100คนดิ ผมว่าดีออก(เป็นความคิดเห็นนะครับ) จากคุณ : ฟ้าวันเล เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:14:40 A:110.168.189.217 X:

ความคิดเห็นที่ 4 #3 คุณอยากให้เลือกมา จังฯละ5คน แล้วเอามาจับฉลาก ??????.....การ จับฉลาก จะต่างอะไรกับการวัดดวงครับ   คนที่จับฉลากมาได้ ไม่ใด้หมายความว่า   คนๆนั้น ป็นคนดีครับ  การจับฉลาก จะต่างอะไรกับหลัก การเดิม คือให้ ปชช. เลือกมาจังฯละ1คน   ส่วน คนที่ได้รับเลือกมา  จะอิงกับนักการเมืองรึป่าว   อันนี้ ประชาชนในจังฯนั้นๆเป็นผู้ตัดสินใจเลือกของเค้าเองครับ  เป็นสิทธิ อันชอบธรรม ของเสียงส่วนใหญ่ ที่เค้าได้รับเลือกมานะครับ   วิธีเฟ้นหา ทุกๆวิธี ที่มีบนโลกนี้   ยังไงก็ไม่มีวิธี  ไหนที่ดีไปกว่า การได้รับเลือกมาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ครับ  ถ้าคิดว่า เรายังศัทธาในระบอบประชาธิปไตร กันอยู่  ตรรกะนี้ เป็นพื้นฐาน ขั้นต้นในระบอบประชาธิปไตรแล้วครับ   วิธีคิดที่นอกเหนือไปจากนี้  .........เค้าเรียกเผด็จการ ครับ แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 55 17:52:10 จากคุณ : kim (kimyunhee) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:42:29 A:171.5.100.93 X:

ความคิดเห็นที่ 5 จับฉลากไม่ดีหรอ ยังงี้ก็เอา3-400คนเลือกกันเองให้เหลือ100คน แบบนี้ประชาธิปไตยพอไหมครับ ที่อยากได้คือสสร.ที่อิงกับพรรคการเมืองให้น้อยที่สุดและเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด เพราะถ้าเลือกแบบเดิมๆ สสร.ก็ต้องอิงกับพรรคการเมืองอยู่แล้ว จากคุณ : ฟ้าวันเล เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:25:01 A:110.168.189.217 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ขอแย้ง จขกท.สักนิดนะครับ คือผมมองว่า การลงประชามติตอนนี้ ไม่มีประโยชน์อะไร(อันนี้เหมือนจขกท.) แต่คิดว่า ยังไงก็ต้องทำประชามติ 2 ครั้งอยู่ดี โดยผมเห็นด้วยกับนโยบายพรรคเพื่อไทย ตรงประเด็นที่ว่า ต้องมีการทำประชามติก่อน เพื่อกำหนดกรอบเบื้องต้น ให้สสร.ไปทำงาน ว่าจะเอารัฐธรรมนูญฉบับไหนเป็นต้นแบบ (คือปี 40 หรือ 50) มีการแก้ไขปรับปรุง ให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะถ้าหากเปิดเสรีเกินไป ไม่มีกรอบเบื้องต้นเอาไว้ เวลาที่กำหนดเอาไว้ ในมาตรา 291 ที่ผ่านวาระ 2 ไป รู้สึกว่าจะให้เวลาแค่ 240 วัน หลังจากมี สสร.ครบ ซึ่งเวลาขนาดนี้ คงไม่สามารถเริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลย (มีแต่หมวด 1 และ 2 ของปี 50 แปะไว้แค่นั้น) เพราะประเด็นมันมีเยอะมาก ถ้าต้องไปประชาเสวนา ทั้งหมดทุกประเด็น กว่าจะเริ่มร่าง มันคงจะผ่านไปมากกว่า 5 เดือน หรือเหลือเวลาไม่ถึง 3 เดือนในการเขียนจริง ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ปัญหาเดิมๆ  ก็จะกลับมาหลอกหลอนอีก ก็คือ มีการเขียนผิด เขียนไม่ชัดเจน ที่ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญนั่งตีความเต็มไปหมด ถ้าเป็นแบบนั้น ความวุ่นวายในสังคมแบบเดิม ๆ ก็คงจะเกิดอีกอยู่ดี คือพยายามตีความเข้าข้างตัวเอง ไปไหนไม่ได้สักที ดังนั้น ควรทำประชามติ เพื่อสร้างกรอบชัดเจนอันแรกขึ้นมาก่อน แล้วไปดัดแปลงแก้ไข ตามความจำเป็น ตามความผิดพลาดที่เป็นบทเรียนมาในอดีต หลังจากร่างเสร็จ ก็ไปทำให้ประชาชน ตีตรารับรองอีกครั้งนึง ก็จบกระบวนความ สรุปคือ ต้องผ่านวาระ 3 ให้ได้ก่อน แล้วก็ทำประชามติด้วยคำถามว่า จะใช้รัฐธรรมนูญไหนเป็นต้นแบบ ถ้าหากยังไม่พร้อมจะผ่านวาระสาม ก็ไม่ต้องทำประชามติ จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:39:35 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 7 Lpg_Horse ผมชอบความคิดเห็นของคุณนะครับ แต่บางเรื่องคุณชอบมองลึกเกินไป แล้วเอามาเป็นข้อโต้แย้ง สิ่งที่ผมอธิบายเป็นสิ่งที่อธิบายขั้นตอนแบบคร่าวๆ ครับ เพราะฉะนั้นถ้าจะตั้งเงื่อนไขอะไร มันก็อยู่ที่คนทำครับ เพราะสิ่งที่ผมอธิบายมันตรงๆตัวครับ ว่าัขั้นตอนลำดับมันเป็นเช่นนี้ ส่วนเบื่องหลังของการยกร่างฉบับไหนเป็นต้นแบบยังไง มันเป็นเรื่องลึกและรายละเอียด ซึ่งผมคงไม่จำเป็นต้องอธิบายทั้งหมดเพราะผมไม่ใช่คนจัดทำจริงไหมครับ เพราะหัวข้อผมก็บอกไปแล้วว่า การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ที่หลายคนไม่เข้าใจ หมายถึงอธิบายให้คนที่ยังไม่รู้ ได้รู้ว่าการที่จะทำประชามติครั้งนี้ เป็นการทำประชามติว่าด้วยอะไร ครับ และเพราะเหตุใดจึงต้องทำประชามติครั้งนี้ แล้วมันมีความจำเป็นไหมเท่านั้นครับ ส่วนเรื่องให้ผ่านวาระ 3 คุณต้องไปบอกกับฝ่ายค้านครับไม่ใช่ผม เพราะคนที่พยายามให้เกิดประชามติก่อนที่จะผ่านวาระ 3 ก็คือฝ่ายค้านครับ เพราะฉะนั้นทางด้านเทคนิคแล้ว รัฐบาลก็แค่ถูกกดดันให้ต้องลงคะแนนประชามติก่อนถึงเวลาอันควรเท่านั้นเองครับ แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 13:00:17 จากคุณ : BlackHunter เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:54:57 A:180.183.58.209 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ขอยกไปใหม่ ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ P13095667 จากคุณ : BlackHunter เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 13:09:50 A:180.183.58.209 X: